"ปิคอัพ" ขยี้สาวหล่อ ม.3 ดับสยองแล้วซิ่งหนี ประกันช่วยค่าทำศพเบื้องต้น 2,000 บาท แม่ร่ำไห้เรียกร้องให้คนขับมาขอขมาศพลูกสาว
24 ส.ค. 2566, 05:16
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นี้คือภาพเหตุการณ์ที่รถยนต์ปิคอัพยี่ห้อโตโยต้าสีขาว รุ่นรีโว่ หมายเลขทะเบียน 1 ขร 5480 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน 8 กภ 1494 กรุงเทพ ซึ่งมี น.ส.ภาสินี สังข์ทอง อายุ 15 ปี เป็นสาวหล่อเป็นผู้ขับขี่และมี ดญ.ต้องตา อายุ 2 ขวบหลานสาวของ น.ส.ภาสินี นั่งซ้อนท้ายมาด้วย ซึ่งรถปิคอัพได้เฉี่ยวชนรถ จยย.ล้มลงแล้วทำให้ร่างของ น.ส.ภาสินี กระเด็นเข้าไปใต้ท้องรถปิคอัพ จากนั้น รถปิคอัพได้ทับบริเวณร่างส่วนบนของ น.ส.ภาสินี เสียชีวิตคาที่ ส่วน ดญ.ต้องตานั้น น.ส.ภาสินี ได้ผลักกระเด็นออกไป ทำให้รอดชีวิตหวุดหวิด จากนั้น รถยนต์ปิคอัพได้ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยมีรถ จยย.ของพลเมืองดีขับไล่ติดตามไปแต่ไม่ทัน แต่ว่ากล้องหน้ารถ จยย.สามารถบันทึกภาพรถยนต์คันที่ก่อเหตุไว้ได้ และได้นำเอาภาพไปโพสต์ในเฟสบุ๊ค เพื่อให้ช่วยกันแชร์ติดตามรถปิคอัพคันก่อเหตุ มีการแชร์ไปยังเพจต่าง ๆจำนวนมาก และพลเมืองดีได้นำเอาคลิปภาพไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ เพื่อติดตามจับกุมรถคันก่อเหตุต่อไป เหตุเกิด ที่บริเวณวงเวียนศาลหลักเมือง ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 66 เวลา 19.19 น.ที่ผ่านมา
นายรักษ์ อายุ 34 ปี พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์และขับรถ จยย.ไล่ตามรถปิคอัพคันก่อเหตุ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนขับขี่รถ จยย.เพื่อจะไปหาซื้อของใช้ และได้มาพบเหตุการณ์รถปิคอัพชนกับรถ จยย. ตนจึงได้ขับรถ จยย.ไล่ติดตามไป โดยรถคันก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็วมากมุ่งหน้าไปทางตัวเมืองศรีสะเกษ แต่ว่า รถ จยย.ของตนคันเล็กไม่สามารถไล่ติดตามได้ทัน ทำได้เพียงบันทึกภาพรถยนต์ไว้เป็นหลักฐานและได้ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.กันทรลักษ์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และตนได้นำเอาคลิปภาพไปโพสต์ในเฟสบุ๊ค เพื่อต้องการให้สื่อโซเชี่ยลช่วยกันแชร์ติดตามรถคันเกิดเหตุให้มารับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นที่ทำให้น้องผู้หญิงต้องเสียชีวิตอย่างน่าอนาถและหลานสาวอายุ 2 ขวบได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้
ต่อมาช่วงบ่ายของวันที่ 23 ส.ค.66 พ.ต.ต.โฆษิต ยอดศรี สว.(สอบสวน) สภ.กันทรลักษ์ เจ้าของคดีนี้ได้รับการประสานงานจาก นายสิทธิศักดิ์ ชาว อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เจ้าของรถปิคอัพคันเกิดเหตุและเป็นผู้ขับขี่รถว่า มีความประสงค์จะเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ซึ่งนายสิทธิศักดิ์ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย และได้นำรถปิคอัพที่เกิดเหตุมามอบให้พนักงานสอบสวนได้ทำการตรวจสอบสภาพรถด้วย จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณซุ้มล้อหน้าด้านขวามีรถเฉี่ยวชน และบริเวณล้อหลังขวามีร่องรอยคล้ายกับคราบเลือดและคราบน้ำมันติดอยู่ ซึ่ง พ.ต.ต.โฆษิต ยอดศรี สว.(สอบสวน) สภ.กันทรลักษ์ ได้รายงานให้ พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ทราบ และได้ทำการสอบปากคำนายสิทธิศักดิ์ ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ตั้งข้อหากับนายสิทธิศักดิ์ว่า ขับรถโดยประมาทหวาดเสียวเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ขับรถโดยประมาทหวาดเสียวเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย เฉี่ยวชนแล้วหลบหนี รวม 4 ข้อหา ซึ่งนายสิทธิศักดิ์ ได้ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน นางศิริเนตร สังข์ทอง อายุ 52 ปี แม่ของ น.ส.ภาสินี สังข์ทอง หรือน้องส้ม สาวหล่อที่เสียชีวิตอย่างน่าอนาถ ได้นำศพของ น.ส.ภาสินี มาตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดศิริวราวาส ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก มีญาติพี่น้อง และเพื่อน น.ร.ที่เรียนร่วมชั้น ม.3 ด้วยกันและคณะครู มาร่วมไว้อาลัยอย่างต่อเนื่อง
นางศิริเนตร สังข์ทอง อายุ 52 ปี แม่ของ น.ส.ภาสินี สังข์ทอง หรือน้องส้ม กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 ส.ค.66 น้องส้มมาบอกกับตนว่า จะออกไปหาซื้อของกิน โดยได้นำน้องต้องตา หลานสาวอายุ 2 ขวบนั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ไปด้วย ต่อมาตนได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนของน้องส้มว่า น้องส้มลูกสาวของตนโดนรถชนเสียชีวิตคาที่ ทำให้ตนถึงกับช็อคเสียใจมาก เนื่องจากว่า น้องส้มเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนหนังสือ หลังจากเลิกเรียนทุกวันแล้วก็จะไปทำงานเป็นพนักงานเสริฟ์ที่ร้านหมูกระทะ เพื่อหารายได้มาช่วยเหลือครอบครัว มีรายได้วันละ 150 บาท แต่ตนไม่รับเงินจากน้องส้มให้เก็บเงินไว้เรียนหนังสือ ซึ่งในวันนี้ (23 ส.ค.66 ) ได้มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยรถปิคอัพคันเกิดเหตุโทรศัพท์มาหาตน แจ้งว่าจะขอเจรจาค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งตนตอบไปว่า ขณะนี้ตนไม่มีสติที่จะสามารถเจรจาเรื่องอะไรได้ และให้ไปเจรจากับน้องสาวของตนแทน โดยทางบริษัทประกันภัยแจ้งว่า จะช่วยเหลือค่าทำศพเบื้องต้น จำนวน 2,000 บาท ซึ่งตนไม่ได้ติดใจเรื่องนั้น แต่ว่าตนต้องการให้คนขับรถชนน้องส้มเสียชีวิตมากราบขอขมาน้องส้ม เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อกันอีกต่อไป ตนขอขอบคุณ พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ที่ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือดูแลให้ความเป็นธรรมในเรื่องนี้อย่างเต็มที่