รวบฆาตกรโหดทาสยาเสพติดฆ่าชิงทรัพย์เจ้าของร้านชำ
31 ส.ค. 2566, 11:24
กรณีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ และ ฆ่าโหดนายสมชัย กล้าหาญ อายุ 74 ปี เจ้าของร้านขายของชำเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 378 หมู่ 5 ต.อู่ทอง สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่หัว มีรอยแผลที่หน้าอกและท้องรวม 8 แผล เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12 ชม. ใกล้ร่างผู้เสียชีวิตพบร่างหญิงสูงวัยซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงและเป็นภรรยาผู้เสียชีวิตขยับร่างกายไม่ได้นอนอยู่บนที่นอนไฟฟ้า อยู่ข้างศพสามีที่เสียชีวิตจมกองเลือดเป็นที่น่าเวทนาแสลดใจเป็นอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ให้หน่วยกู้ภัยจักรนารายณ์ จึงรีบให้การช่วยเหลือนำออกมาด้านนอกเพื่อให้ลูกสาวนำส่งโรงพยาบาล ให้แพทย์ตรวจร่างกาย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภาค 7 ชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี และชุดสืบสวน สภ.อู่ทอง ประสานกำลังแบบปูพรมลงพื้นที่สืบหาเบาะของคนร้ายเพื่อจับตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุดเนื่องจากคนร้ายเหี้ยมโหดไม่เกรงกลังกฎหมาย
ล่าสุด พ.ต.อ.ปราโมทย์ โพธิ์พันธุ์ ผกก.สภ.อู่ทอง และ พ.ต.อ.พีระ อัศวะพิบูลย์ผล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี นำกำลังชุดสืบสวนอู่ทอง ชุด กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี และชุดสืบสวนภาค 7 สืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายเกรียงไกร วงค์บุตร หรือ ก๊อง อายุ 35 ปี บ้านอยู่ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร หลังก่อเหตุได้ขับรถของผู้เสียชีวิตหลบหนี
กล้องวงจรปิดตามเส้นทางการหลบหนี พบว่าคนร้ายมุ่งหน้าปทางจังหวัดนครปฐม จึงวางแผนติดต่อล่อซื้อรถที่คนร้ายชิงไป โดยนัดส่งมอบรถกันที่บ้านญาติผู้ต้องหา ริมถนนสาย 333 อู่ทอง - ด่านช้าง พื้นที่ ตำบลหนองโอ่ง อำเภออู่ทอง คนร้ายหลงกล ขับรถกลับมาส่งให้ในพื้นที่นัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้แสดงตัวจับกุม ตัวได้พร้อมมของกลางที่ชิงไปจากนั้นได้คุมตัวไปสอบสวนต่อที่ สภ.อู่ทอง
ทางด้าน พ.ต.อ.ปราโมทย์ โพธิ์พันธุ์ ผกก.สภ.อู่ทอง เผยว่า คนร้ายเพิ่งพ้นโทษมาได้ 4-5 เดือน ทางตำรวจสงสัยอยู่แล้วเพราะเขาอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีอาชีพ เขาจะเก็บขยะตามกองขยะขายแล้วก็นอนอยู่ที่เพิงแถวกองขยะ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 สิงหา ผู้ต้องหาเคยเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ที่ร้านชำหลังนี้มาแล้วหนึ่งครั้งแต่มีเห็นคนมาก่อนเลยวิ่งหนีไปพร้อมของกลางหลายรายการ พอมาเกิดเหตุครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้อวงจรปิดผู้ก่อเหตุคือคนเดียวกัน
จึงทำการตรวจสอบเช็คว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน จนทราบแน่ชัดจึงวางแผนล่อซื้อรถที่ชิงไปและคนร้ายหลวมตัวย้อนกลับมาจึงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมพร้อมของกลางในคดี ซึ่งได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจหลักฐานต่างไว้ เพราะตอนนี้ต้องการหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อมาประกอบสำนวนโดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าก่อเหตุคนเดียว โดยประวัติคนร้ายเพิ่งออกจากคุกมาได้ประมาณ 4-5 เดือน ในข้อหายาเสพติด
จากการสอบถามผู้ต้องหา เบื้องต้น ให้การว่าลงมือทำเพียงคนเดียวมีวิธีการเอารถมอเตอร์ไซ ขึ้นคนเดียวได้ ซึ่งก็ยังงงว่า ที่ทำได้จริงไหม ส่วนในเรื่องว่าเข้าบ้านไปตอนกี่โมง กระทำการยังไง ตอนนี้อยู่ในขั้นสอบสวนตอนนี้ได้ตัวมาพร้อมของกลางความผิดแรกก็มีอยู่แล้ว โดยผู้ต้องหาเข้าไปลักทรัพย์เพื่อหวังทรัพย์สินอย่างเดียว แต่ทางผู้เสียชีวิตไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้ ซึ่งอาวุธที่เขาเตรียมเข้าไปก็เป็นท่อนอ้อยโดยเขาใช้ท่อนอ้อยตี ไม่ได้มีอาวุธอย่างอื่น โดยใช้ต้นอ้อยตีจนหักและจากนั้นก็คว้าไม้มาตีซ้ำ
จากการชันสูตรของหมอ หลังเกิดเหตุผู้ตายยังไม่เสียชีวิตทันที เพราะเหตุเกิดตอนช่วงเวลาประมาณตี 2 ของวันที่ 28 ส.ค. โดยทางแพทย์บอกว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12 ถึง 18 ชั่วโมง ซึ่งหลังเกิดเหตุลุงเขาอยู่บ้านกับภรรยาที่ป่วยติดเตียง พอบ้านปิด และรถของลุงก็ไม่อยู่ด้วย คนที่เคยมาซื้อของ ก็คงคิดว่าออกไปทำธุระข้างนอกจึงไม่มีใครเข้าไปดูในบ้านว่าเกิดเหตุอะไร จนทางลูกของลุงติดต่อไปแล้วไม่รับโทรศัพท์ ติดต่อ ไม่ได้ 2 วันจึงได้เข้ามาดูก็พบว่าเสียชีวิต
โดยกล้องวงจรปิดในบ้านเห็นแค่ลูกตากับคิ้ว เพราะผู้ต้องหาสวมหมวกปิดบังมิด แต่จากการดูคิ้วแล้วเป็นคนเดียวกัน ซึ่งคนร้ายเคยมามั่วสุมอยู่ที่บ้านฝั่งตรงข้ามของบ้านที่เกิดเหตุและพอรู้เส้นทางในบ้าน ส่วนกล้องวงจรปิดในบ้านคนร้ายได้ใช้ไม้ดันขึ้นไปและมีการถอดปลั๊กออก ซึ่งดูแล้วคนร้ายเหมือนเป็นคนไม่คิดอะไรมาก เพราะหลังก่อเหตุพอโดนหลอกล่อให้กลับมาเอาทรัพย์สินที่ชิงไปมาขายเขาก็กลับมา ไม่มีการวางแผนเหมือนแค่ทำไปวันวันเพื่อหาเงิน เหมือนคนไม่มีความคิด ผู้ต้องหาเป็นคนต่างถิ่นมาจากกระทุ่มแบน เหมือนเป็นคนเร่ร่อนทั่วไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาชิงทรัพย์และทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนข้อหาอื่นต้องรอสอบสวนอีกครั้งจึงจะแจ้งเพิ่ม