จับกุม ! "หนุ่มจีน" ลักพาตัวสาวจีน-มัดมือมัดเท้า หลังขอความช่วยเหลือจากแท็กซี่พลเมืองดี
15 ก.ย. 2566, 14:36
จากกรณีคุณณาตยานี (สงวนนามสกุล) ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ แจ้งเหตุการณ์พบเห็นอุบัติเหตุบนทางพิเศษศรีรัช และมีหญิงสาวชาวจีน กระโดดลงจากรถ สภาพถูกมัดมือมัดเท้า เคาะกระจกขอความช่วยเหลือ ตนเองจึงรับขึ้นรถและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีการพาไปส่งบริเวณหน้าด่านอโศก 4 ขาเข้า พร้อมนำตัวไปสอบถามเพิ่มเติมที่ สน.ทางด่วน 2 และประสานต่อเนื่องไปที่ สน.มักกะสัน ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ
โดยสภาพของหญิงสาวมีหน้าตาตื่นกลัว และให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าตนเองถูกมอมยา จับมัดมือมัดเท้าและลักพาตัว ต้องการให้แท็กซี่พากลับบ้าน
จากนั้น สวพ.FM91 ประสานงานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งตำรวจ สน.ทางด่วน 2 ได้เข้าจับกุมชายชาวจีนต้องสงสัยคนหนึ่ง ที่เป็นผู้ขับขี่รถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า ยาริส สีเทา และลักพาตัวหญิงสาวชาวจีนจนไปประสบอุบัติเหตุ โดยผู้ต้องสงสัยชื่อ เป็นชายชาวจีน อายุ 36 ปี ซึ่งสามารถสกัดจับได้บริเวณทางลงด่วนพระราม 9
จากการสอบถามคู่กรณี นายเอ (นามสมมุติ) คนขับรถที่ชายชาวจีนไปเฉี่ยวชน เล่าว่า ชายคนดังกล่าวไม่มีท่าทางมีพิรุธ หรืออารมณ์ร้อนรนแต่อย่างใด ดูปกติดี พยายามจะจ่ายค่าเสียหายให้ แต่ตนบอกว่าต้องรอประกัน และกดเรียกตำรวจ ก่อนจะถูกตำรวจรวบตัวได้
ด้าน สน.ทางด่วน 2 ได้สอบปากคำสาวชาวจีนที่เป็นผู้เสียหาย ในคดีอุบัติเหตุ ก่อนจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ท้องที่เกิดเหตุ ดำเนินการต่อในคดีลักพาตัว
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงชาวจีนผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ได้ยังคงสอบปากคำอยู่ที่ชั้น 3 ของสถานีตำรวจ สน.ทางด่วน 2 พร้อมได้จัดล่ามมาดำเนินการแปลภาษาให้ และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปบริเวณดังกล่าว
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุ รู้จักกับหญิงสาวผู้เสียหายที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 ก.ย. จากนั้นพาไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านพระราม 9 ต่อมาฝ่ายชายขอเงินหญิงสาว 50,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 250,000 บาท แต่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอม ฝ่ายชายจับมัดมือมัดเท้าพาขึ้นรถโดยให้นั่งที่เบาะหลัง ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนกระทั่งถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว
สำหรับผู้ก่อเหตุ เดินทางมาจากมณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้ยังพบบัตรอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวในราชอาณาจักรกัมพูชา บัตรดังกล่าวทำตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. และบัตรจะหมดอายุในวันที่ 31 ธ.ค.
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยหลังเดินทางมาร่วมสอบสวนคดีนี้ว่า ผู้ก่อเหตุชาวจีนที่ตกเป็นผู้ต้องหานั้น ทำงานเป็นพนักงานขับรถอยู่ที่ประเทศดูไบเข้ามาเที่ยวเมืองไทยเมื่อวันที่ 8 ก.ย. เคยมาเที่ยวในประเทศไทยแล้วหลายครั้ง ส่วนรถเก๋งโตโยต้าเป็นรถเช่า ภายในรถพบถุงยางยังไม่ได้ใช้และใช้แล้วจำนวนหนึ่ง ส่วนผู้เสียหาย อายุ 27 ปี ทำงานเป็นเอเย่นต์พาสาวจีนไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี มาเที่ยวเมืองไทยเมื่อวันที่ 2 ก.ย. พักอยู่ย่านอโศก ถนนพระราม 9 ทั้งคู่เจอกันในแอปฯ นัดมากินปิ้งยางร้านอาหารแห่งหนึ่ง เหยื่อได้ดื่มเครื่องดื่มจนหมดสติมารู้สึกตัวอีกที่ร่างกายเปลือยเปล่าอยู่ในห้องพักของฝ่ายผู้ชายในซอยรามคำแหง 81 จากนั้นผู้ต้องหาเข้ามาปลอบพาไปกินข้าวเช้าและชวนไปเที่ยวพัทยา แต่พอขึ้นรถฝ่ายชายพูดจาข่มขู่ใช้มือบีบคอใช้เชือกมัดมือมัดขารีดเอาเงิน 2 แสนยวน แต่เหยื่อโทรไปหาเพื่อนที่ประเทศจีนโอนเงินมาให้ผู้เสียหาย 5 หมื่นยวน กระทั่งทั้งคู่มาประสบอุบัติเหตุขณะเดินทางไปกดเงินที่ย่านห้วยขวาง เบื้องต้นแจ้งข้อหาเรียกค่าไถ่ กักขังหน่วงเหนี่ยวและข้อหาอนาจาร ส่งหญิงผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ หากพบร่องรอยล่วงละเมิดทางเพศก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป