เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าของลูกช้างป่าภูวัว ที่พลัดหลงโขลง ตั้งแต่เช้าวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ได้นำลูกช้างกลับเข้าไปดูแลรักษา บริเวณภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. อยู่ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์ โดยนางสาวทักษิณา จารุวัฒนานนท์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) เข้าสับเปลี่ยนรักษาตรวจสอบและบันทึกอาการของลูกช้าง ซึ่งผ่านมากว่า 9 วันแล้วที่ลูกช้างป่าอาศัยอยู่ภายในคอกชั่วคราวที่ทำขึ้นข้างโรงจอดรถ และบริเวณนี้เคยใช้เป็นคอกดูแลลูกช้างป่า “ชบาแก้ว” เมื่อครั้งตกท่อส้วมร้าง ในสวนยางพาราของชาวบ้านโนนไพศาล ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ขณะออกหากินไปกับแม่ช้างและโขลง เมื่อคืนวันที่ 4 เม.ย.ปี 2562 ที่ผ่านมาและล้มป่วย ตายกะทันหัน เมื่อต้นเดือน ธ.ค.2563

 

 

โดยอาการลูกช้างป่ากินนมทั้งหมด 13 ครั้ง จำนวน 3.1 ลิตร (15.00น.ของวันที่19 กันยายน2566-15.00น.ของวันที่ 20กันยายน2566)นอนหลับทั้งช่วงกลางวันและช่วงกลางคืน เฉลี่ยต่อครั้งประมาณ 45 - 60 นาที การขับถ่ายปกติ อุณหภูมิร่างกาย โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 36.7 องศาเซลเซียส อาการทั่วไปร่าเริง ช่วงกลางคืนห่มผ้าและจุดไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่นตลอดทั้งคืน พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ดูแลสังเกตุอาการตลอด 24 ชั่วโมง มีการเปลี่ยนฟางในคอก เพื่อรักษาความสะอาดคอก และเช็ดตัวให้ลูกช้างป่าอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดพัดลมระบายความร้อนให้กับลูกช้าง โดยรวมร่างกายแข็งแรงขึ้น

ขณะที่ นายวิษณุ  กุมภาว์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว กล่าวว่า ตั้งแต่ลูกช้างป่าภูวัว หลุดจากโขลง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ก็จัดชุดออกลาดตระเวน ประกอบด้วยชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า เจ้าหน้าที่สายตรวจฯ ส่วนกลาง เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าชะแนน และเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าถ้ำฝุ่น ตรวจสอบพื้นที่พร้อมทั้งติดกล้องดักสัตว์เพื่อติดตามร่องรอยเส้นทางการเดิน และทิศทางการเคลื่อนที่ของโขลงช้าง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการนำลูกช้างป่าคืนสู่โขลง ซึ่งขณะนี้ต้องรอความพร้อมในส่วนร่างกายของลูกช้าง ให้แข็งแรงมากขึ้นกว่านี้ก่อน