ตำรวจนำตัว "นายต้น" อดีตลูกเขย ก่อเหตุลักพาตัวอดีตแม่ยายเรียกค่าไถ่ฝากขังศาลจังหวัด พร้อมคัดค้านการประกันตัว
26 ก.ย. 2566, 03:42
วันที่ 25 กันยายน 66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นางพัชรี อายุ 48 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังจากถูกแก๊งคนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจภูธรภาค 7 อุ้มตัวขึ้นรถเก๋งสีขาวไปเรียกเงินค่าไถ่ จำนวน 300,000 บาท ที่ผู้สื่อข่าวได้เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
ความคืบหน้าของคดีล่าสุด เมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 25 ก.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ได้นำตัวนายต้นผู้ต้องหาซึ่งเป็นอดีตลูกเขยของนางพัชรี ผู้เสียหาย ที่ได้ร่วมกับพวกอีก 3 คน ก่อเหตุลักพาตัว นางพัชรีอดีตแม่ยายไปเรียกเงินค่าไถ่จำนวน 3 แสนบาท ตามหมายจับของ สภ.เมืองประจวบ และตำรวจได้แจ้ง 4 ข้อกล่าวหา พร้อมนำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากครบกำหนดเวลาควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลป้องกันผู้ต้องหาไปข่มขู่ผู้เสียหาย เนื่องจากอดีตเคยถูกจับกุมและมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับอาวุธปืน ส่วนผู้ต้องหาและญาติก็มีสิทธิ์ที่จะยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลได้ ขึ้นอยู่กับว่าศาลจะอนุญาตหรือไม่ ส่วนผู้เสียหายก็สามารถไปยื่นคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลได้เช่นกัน โดยในวันนี้ไม่ได้มีทนายความ และญาติมายื่นขอประกันตัวที่โรงพักแต่อย่างใด มีแต่บิดากับญาติของผู้ต้องหาได้เดินทางมาเยี่ยมลูกชายเท่านั้น ส่วนความคืบหน้าการติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุที่ยังเหลืออยู่อีก 3 คน อยู่ในระหว่างการสืบสวน ในส่วนของผู้เสียหายที่มีความหวั่นกลัวในเรื่องความไม่ปลอดภัย พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ แจ้งว่าให้ผู้เสียหายมาใช้สิทธิ์คุ้มครองได้ โดยยื่นคำร้องที่โรงพัก สภ.เมืองประจวบฯ แต่ในเบื้องต้นจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจไปลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยให้เป็นระยะเพื่อความอุ่นใจของผู้เสียหาย จึงอยากขอให้ผู้เสียหายให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยการให้ข้อมูลเชิงลึกกว่านี้ เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาให้ได้ทั้งหมดโดยเร็ว
โดยในวันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษของภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์(นปพ.) หลังทราบว่าเป็นสถานที่ทำงานของตำรวจที่ชื่อแงะผู้ต้องสงสัยตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง ปรากฏว่าเป็นตำรวจจริงสังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ยศสิบตำรวจโท ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.สส.ภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงแก้ต่างให้ตัวเอง หลังจากที่ถูกกล่าวอ้างจากผู้เสียหายว่าสงสัยเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ ปรากฏว่าไม่พบตัวและเมื่อเดินทางไปหาที่บ้านพักก็พบว่าปิดบ้านเงียบ พบเพียงแต่รถยนต์ ยี่ห้อ Mitsubishi Pajero Sport สีดำ จอดอยู่ที่บริเวณหน้าห้องพักภายในหน่วยปฏิบัติการพิเศษ และเมื่อผู้สื่อข่าวเรียกขานเพื่อขออนุญาตสัมภาษณ์ชี้แจง แต่ไม่ได้มีเสียงตอบกลับมาแต่อย่างใด จึงได้พูดคุยสอบถามกับเพื่อนร่วมงานซึ่งเป็นตำรวจชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่เข้าเวรอยู่ที่สำนักงานเดียวกัน ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า รู้จักกับตำรวจที่ชื่อแงะมานานแต่ไม่สนิท เนื่องจากทำงานอยู่หน่วยเดียวกันแต่ไม่ค่อยได้คลุกคลีกันเพราะไม่ค่อยได้มีโอกาสเจอกัน เนื่องจากตนทำหน้าที่เข้าเวร แต่ทราบว่าตำรวจชื่อแงะเป็นเด็กลูกหลานชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเมื่อสอบเป็นตำรวจจึงได้ย้ายกลับมาอยู่ในพื้นที่ใกล้บ้านตัวเองหลายปีแล้ว
โดยอุปนิสัยของตำรวจชื่อแงะเป็นคนเฮฮาอัธยาศัยดี แต่ก็ไม่เคยได้ยินกระแสข่าวเรื่องราวเกี่ยวกับความประพฤติในด้านไม่ดี โดยในวันเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้ามีเพื่อนตำรวจด้วยกันคนอื่นบอกว่าตำรวจชื่อแงะเล่นแทงสนุ๊กเกอร์อยู่ทั้งวัน แต่จะออกไปไหนมาบ้างนั้นไม่แน่ใจ แต่ในช่วงเย็นยังเห็นกินเลี้ยงงานเกษียณอยู่ด้วยกันในหน่วย โดยก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุก็ยังเจอบ่อย แต่หลังจากเกิดเหตุก็ไม่ค่อยได้พบเห็นเจอะเจอกันสักเท่าไหร่ ส่วนผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องตำรวจชื่อแงะได้ไปขับรถให้นายตำรวจระดับสูงของจังหวัดจริงหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่แน่ใจเหมือนกันว่าการจัดสรรกำลังพลเป็นอย่างไร แต่ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษจะอยู่ภายใต้หน่วยงานกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้บังคับบัญชาสั่งการ และทำงานร่วมกันตามที่ได้รับมอบหมาย