เปิดใจ ! "พ.ต.อ.ภาคภูมิ" หลัง "มินนี่" ชี้แจงสัมพันธ์ ลั่นความจริงก็คือความจริง
29 ก.ย. 2566, 13:39
วันที่ 29 ก.ย. 66 พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย รองผบก.สส.ภ.4 เปิดเผยหลังมินนี่ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ ว่า ตนเองได้ดูแล้วและข้อเท็จจริงก็เป็นตามนั้น ความสัมพันธ์ก็เป็นไปตามคำพูดของน้องเขา ส่วนจะมีผลต่อรูปคดีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ที่กำลังต่อสู้ให้หรือไม่นั้น ตนมองว่าคงไม่เป็นไรเพราะน้องเขาคงพูดความจริงทั้งหมด เพราะความจริงก็คือความจริง
ส่วนกรณีที่มินนี่ ระบุว่า ตอนถูกจับแล้วถูกตำรวจ PCT 4 บังคับให้เขียนยอมรับว่า พ.ต.อ.ภาคภูมิ เกี่ยวข้องด้วยตนเองทราบหรือไม่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ระบุว่า พอ มินนี่ ถูกจับ ตนเองก็ยังไม่ได้คุยกับมินนี่อีกเลย และพอตนเองได้ฟังจากที่มินนี่ให้สัมภาษณ์ว่ามีตำรวจบังคับให้เขียนข้อความรับสารภาพนั้น ก็มองว่า ความเสียหายจะเกิดขึ้น 2 ส่วน
ส่วนแรกน้องเขาต้องเสียหายที่จะต้องถูกบังคับ ถูกอะไรก็ตามตามที่เขากล่าว และอีกส่วนคือ ภาพที่หลุดออกมาเขาก็เสียหายอีกครั้ง เพราะข้อเท็จจริงแล้ว การเก็บพยานหลักฐานทำโดยตำรวจ แล้วหลุดไปอยู่ในมือบุคคลภายนอกโดยเจตนาของเขาคืออะไร
ทำไมไม่เอาไปใช้เป็นพยานในคดีเท่านั้น และการออกมาเปิดเผย มันจะคิดเป็นเจตนาอื่นยังไง และอีกคนที่เสียหายคือตน และครอบครัว ในทางคดีก็ว่าไป แต่การเอารูปออกมาก็ลองคิดดูว่าเจตนาของเขาคืออะไร คงไม่ได้สนใจเรื่องคดี แต่ตนเองมองว่าคงต้องการให้เกิดความเสียหาย เมื่อถามว่า มีการวางแผนหรือทำให้เสียหายหรือดิสเครดิตมานานแล้วหรือไม่เพราะเกิดขึ้นตั้งแต่ที่มินนี่ถูกจับกุมในช่วงเดือน ก.ค.
พ.ต.อ.ภาคภูมิ ระบุว่า คงไม่ไปกล่าวหาอย่างนั้น หากมีพยานหลักฐานก็ว่าไปตามกระบวนการ ตนเองเป็นตำรวจก็ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ถ้ามีพยานหลักฐานก็ว่ามา แต่วิธีการคือสิ่งที่ตนเองติดใจ ไม่ว่าจะเป็นการออกหมายจับ และการออกหมายค้นต่างๆตั้งแต่เริ่มต้น และพอตนเองยิ่งมาฟังที่มินนี่ให้สัมภาษณ์อีกก็มองว่า มินนี่คงต้องไปให้การเป็นพยานเพิ่มเติมในเรื่องนี้อีก
ส่วนจะต้องนัดพูดคุยกับมินนี่ เพื่อหารือทิศทางการต่อสู้คดีหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ภาคภูมิ ระบุว่า ในการต่อสู้คดีของตนเองกับมินนี่คงแยกกัน เพราะคดีของเขาว่าไปแล้ว คดีของตนเองเพิ่งเริ่ม ซึ่งก็ต้องดูในอนาคตและตนเองก็คงต้องให้ทนายดำเนินการต่อไป