เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 11 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 17 บ้านกระแชงเมืองใหม่ ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ  นพ.พิเชฏฐ์  จงเจริญ รอง นพ.สสจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย  นายสุกิจ  เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ นายธนาวรรณ  สุระชาติ  นายก อบต.กระแชง นายอ่อนศรี  สืบวงศ์  กำนัน ต.กระแชง นายสมคิด  โพธิ์ชัย สารวัตรกำนัน ต.กระแชง เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลจาก รพ.กันทรลักษ์  ได้เดินทางมาเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจกับ น.ส.วารุณี  ดาวไสย  อายุ  30 ปี  ซึ่งเป็นภรรยาของนายพงษ์พัฒน์  สุชาติ อายุ 29 ปี และนางไพรวรรณ  สุชาติ  อายุ  53 ปี แม่ของนายพงษ์พัฒน์  ซึ่งเป็นแรงงานไทยชาว อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบในประเทศอิสราเอล  ซึ่งเมื่อไปถึงพบว่า น.ส.วารุณีและครอบครัว อยู่ในสภาพเศร้าโศกเสียใจอย่างหนัก โดยมีญาติพี่น้องมาคอยเฝ้าปลอบใจอยู่อย่างใกล้ชิด ขณะที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ อปพร.มาคอยอำนวยความสะดวกให้กับคณะที่มาเยี่ยมปลอบขวัญ  ซึ่งคณะแพทย์พยาบาล ได้มาตรวจสอบอาการของครอบครัวนายพงษ์พัฒน์ เพื่อช่วยเยียวยารักษาสภาพจิตใจภรรยาและพ่อแม่ของนายพงษ์พัฒน์  ที่เสียชีวิต

น.ส.วารุณี  ดาวไสย  อายุ  30 ปี  ซึ่งเป็นภรรยาของนายพงษ์พัฒน์  สุชาติ แรงงานไทยชาวศรีสะเกษ ที่เสียชีวิตเล่าด้วยอาการเศร้าโศกเสียใจว่า  นายพงษ์พัฒน์ สามีของตนที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันได้เดินทางไปทำงานด้านการเกษตรที่ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งสถานที่ทำงานอยู่ทางทิศใต้ของประเทศอิสราเอล ห่างจากจุดที่มีการสู้รบที่ฉนวนกาซ่า ประมาณ 20 กิโลเมตร มีแรงงานไทยประมาณ 60 คนทำงานด้วยกัน  ต่อมาวันที่ 10 ต.ค.66  นายสุรัตน์  สุชาติ  อายุ  34 ปี  พี่ชายของสามีตนได้โทรศัพท์ผ่านวีดีคอลล์มาแจ้งให้ น.ส.ถวิล  อินทร์จันทร์  อายุ 32 ปี  พี่สะใภ้ของตนทราบว่า นายพงษ์พัฒน์  โดนระเบิดตกใส่เสียชีวิตคาที่ ทำให้ตนเศร้าเสียใจมาก  เนื่องจากว่า นายพงษ์พัฒน์ สามีของตนเป็นเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว  ขณะนี้ตนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากว่า ศพของนายพงษ์พัฒน์อยู่ที่ประเทศอิสราเอล จึงขอวอนให้ นายเศรษฐา  ทวีสิน  นายกรัฐมนตรี  โปรดช่วยเหลือนำศพของสามีตนกลับมาบ้านที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษด้วย

 

ขณะที่ นางเทียน  จามรี  อายุ  58 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 132 บ้านกระแชงพัฒนา ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้วีดีโอคอลล์พูดคุยกับ นายสุรัตน์  สุชาติ  อายุ  34 ปี  ซึ่งเป็นพี่ชายของนายพงษ์พัฒน์  สุชาติ ที่เสียชีวิตว่า  ขณะเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 10 ต.ค.66  ตนกับนายพงษ์พัฒน์ น้องชายและเพื่อนแรงงานชาวไทยกำลังทำงานกันตามปกติ และตนกำลังวีดีโอคอลล์เล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ นางถวิล ภรรยาของคนที่อยู่ประเทศไทยได้ทราบ  ทันใดนั้น มีเสียงหวอเตือนภัยดังขึ้น 2 ครั้ง  จากนั้น  ไม่ถึง 5 วินาที ตนเห็นลูกระเบิดตกลงมาใส่นายพงษ์พัฒน์  สุชาติ น้องชายของตนที่ยืนอยู่ห่างจากตนไปประมาณ 20 เมตร โดยระเบิดตกลงมาใกล้กับนายพงษ์พัฒน์ ทำให้สะเก็ดระเบิดโดนเข้าที่บริเวณลำคอของ นายพงษ์พัฒน์ ต่อหน้าต่อตาของตนทำให้นายพงษ์พัฒน์เสียชีวิตคาที่ ส่วนเพื่อนคนงานอีก 1 คนโดนสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณด้านหลัง เสียชีวิตคาที่เช่นกัน  ซึ่งทหารอิสราเอล ได้นำศพของนายพงษ์พัฒน์ กับเพื่อนแรงงานไทยไปเก็บไว้แล้ว

นายสุรัตน์  สุชาติ  อายุ  34 ปี  พี่ชายของนายพงษ์พัฒน์ ที่เสียชีวิต กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้พวกตนรวม 60 คน ไม่กล้าที่จะออกไปทำงานและนายจ้างก็ไม่ได้เข้ามาหาพวกตนเลย ตนขอวอนให้ นายกรัฐมนตรีของไทยโปรดช่วยนำศพของนายพงษ์พัฒน์  กลับไปบ้านที่ศรีสะเกษด้วย  ส่วนตนเมื่อเคลียร์เรื่องของนายพงษ์พัฒน์ น้องชายเสร็จแล้ว ก็จะขอเดินทางกลับประเทศไทยทันที และจะไม่กลับมาทำงานที่ประเทศอิสราเอลอีกต่อไป