จากนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท. รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 , พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รอง ผบช.ก.7 ให้เจ้าหน้าที่ ตร.ในสังกัด ภาค 7 เฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดโดยเฉพาะผู้ลักลอบกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา

 

จากนโยบายดังกล่าว พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี , พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวานิชกูล ผบก.สส.ภ.7, พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7 , พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ,พ.ต.อ.สุภาพ วัยนิพิฐพงษ์ รอง ผบก.สส.ภ.7 จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบตามแนวชายแดนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามกันอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยและห่างไกลยาเสพติดของเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ

 

จากกรณีข้างต้นล่าสุดวันนี้ 11 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.มนตรี แตงโต ผกก.สภ.ทองผาภูมิ  จ.กาญจนบุรีว่า วันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วย พ.ต.ท.ธีรพร วิจิตรบรรณการ รอง ผกก.สส.ฯ , พ.ต.ท.คณิศร พันบุดดา รอง ผกก.ป.ฯ, พ.ต.ท.กฤตญตม์ นุ่นชูคัน สวป.ฯ , ว่าที่ พ.ต.ต.วีระชัย เกษเกษร สว.สส.ฯ พร้อมกำลัง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ภ.7 (ชปส.7เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.ภ.7 เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ตชด.135 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

 ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายพีระพงษ์ วงเวียง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182/1 หมู่ 3 ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช  พร้อมของกลางเฮโรอีนตราสิงโตเหยียบลูกโลก 57 แท่ง น้ำหนัก 21.221 กิโลกรัม ยาบ้า จำนวน 30,000 เม็ด รถยนต์เก๋งยี่ห้อเชฟโรเลต สีเทา หมายเลขทะเบียน กท 237 นครปฐม จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง โดยเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณจุดตรวจร่วม 3 แยกทองผาภูมิ หม่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

 

พ.ต.อ.มนตรี แตงโต ผกก.สภ.ทองผาภูมิ  เปิดเผยว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ติดตามขบวนการค้ายาเสพติดเครือข่ายของนายศร (นามสมมุติ)ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด และจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่านายศรฯ มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อเซฟโรเลต อยู่ 1 คัน แต่ใช้ชื่อพี่สาวเป็นผู้ครอบครอง

 

ต่อมาเวลาประมาณ 16.30 น.ของวันที่ 10 ต.ค.ขณะที่เจ้าหน้าที่ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ พบรถยนต์เก๋งคันดังกล่าววิ่งมาจากทางด้าน อ.สังขละบุรี มุ่งหน้าจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อมาถึงจุดตรวจฯเจ้าหน้าที่จึงเรียกและส่งสัญญาณให้คนขับหยุดรถเพื่อขอตรวจค้น และทราบชื่อคนขับคือนายพีระพงษ์ วงเวียง ส่วนผลการตรวจค้นปรากฏพบยาบ้า จำนวน 15 มัด นับรวม 30,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะคนขับปิดทับด้วยพรมปูพื้น และเฮโรอีนตราสิงโตเหยียบลูกโลก ซุกซ่อนอยู่บริเวณตัวถังข้างซ้าย ตัวถังข้างขวา และที่บริเวณใต้เบาะผู้โดยสารด้านหลัง รวม 3 จุด จำนวน 57 แท่ง น้ำหนัก 21.221 กิโลกรัม หลังตรวจพบของกลางเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ทองผาภูมิ

 

โดยนายพีระพงษ์ วงเวียง ผู้ต้องหาให้การในเบื้องต้นว่า วันที่ 10 ต.ค.ตนได้รับการติดต่อจากผู้กองเปี๊ยก ชาวกะเหรี่ยงที่อยู่ฝั่งประเทศเมียนมา ว่าจะมอบรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวให้กับตน และให้ไปโอนรถกับนางสาวเจี๊ยบ ที่ อ.เมืองกาญจนบุรี โดยผู้กองเปี๊ยกได้ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อเอาไว้ ซึ่งตนไม่ทราบมาก่อนว่ารถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมีนางสาวเจี๊ยบ พี่สาวของนายอดิศรฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทองผาภูมิคดียาเสพติด เป็นผู้ครอบครอง  โดยตนมาทราบภายหลังว่านายอดิศรฯจะนำรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวไปใช้หนี้ให้กับนายอนุชา หรือผู้กองเปี๊ยก แทนค่าค้างชำระยาเสพติด

 

โดยเวลาประมาณ 11.00 น.ตนได้ไปรับรถยนต์เก๋งที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโดยมีนายอนุชา หรือผู้กองเปี๊ยก ที่บอกจะให้รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวให้กับตนเป็นผู้ขับมาส่งที่ฝั่งไทย เมื่อถึงชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี นายอนุชา หรือผู้กองเปี๊ยก ได้ลงจากรถจากนั้นตนจึงขับรถยนต์เก๋งกลับเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี เมื่อมาถึงจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นและจับกุมตัวของตนพร้อมของกลางจำนวนดังกล่าว ซึ่งตนขอปฏิเสธว่ายาเสพติดที่ถูกตรวจยึดได้นั้นไม่ใช่ของตน และตนไม่ทราบมาก่อนว่าภายในรถยนต์เก๋งมียาเสพติดซุกซ่อนมาด้วย

 

แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ปักใจเชื่อ จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป