หนุ่ม 24 ปี ทำงานที่ฉนวนกาซ่า ถูกยิงไหล่ขวาสาหัส ล่าสุดปลอดภัย
11 ต.ค. 2566, 18:57
วันนี้( 11 ต.ค.2566) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทางไปยังบ้านโพธิ์บ้านเลขที่ 11 หมู่ 22 ต.พรหมเทพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของนายจิรายุ สุกใส อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 11 หมู่ 22 อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางที่ฉนวนกาซ่า ประเทศอิสราเอล เมื่อช่วง 4 เดือน ที่ผ่านมา ด้วยการเข้าไปรับจ้างเลี้ยงลูกไก่ ในฟาร์มแห่งหนึ่ง และเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ถูกกลุ่มฮามาส ปลาเลสไตน์ ถูกเข้าไปยิง ในบริเวณที่พักอาศัย กระสุนปืน ถูกบริเวณไหล่ขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้รับการรักษา จากแพทย์ ที่ฉนวนกาซ่า ประเทศอิสราเอล และ กลุ่มผู้ร่วมทำงาน ได้ประสาน กับเจ้าหน้าที่ของประเทศอิสราเอล พร้อมประสานกับกับเจ้าหน้าที่ประเทศไทย เพื่อเดินทางกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย และได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ไทยแล้วว่า จะได้เดินทางกลับประเทศไทย ในวันพรุ่งนี้(12 ตุลาคม 2566) จะมีคนไทยเดินทางกลับด้วยสายการบินพาณิชย์ จำนวน 12 คน
ขณะว่าที่ร้อยตรี สนธนา เทิดธีรธรรม ปลัดอำเภอท่าตูม ได้เดินทาง ไปยังบ้านของผู้เป็นพ่อแม่ของนายจิรายุ สุกใส พร้อมกับ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ เพื่อติดตามให้กำลังใจและแจ้งข่าวความคืบหน้า ให้ความช่วยเหลือ ให้กับ นายกำจร สุกใส อายุ 48 ปี ผู้เป็นพ่อ นางจำรัส สุกใส อายุ 42 ปี ผู้เป็นแม่ ได้รับทราบพร้อมด้วยบรรดาญาติๆผู้สูงวัย ตา ยาย ลุงป้า น้าอา ได้มาร่วมกันให้กำลังใจ นายกำจร และนาง จำรัส สุกใส พร้อมพากันนำด้ายมงคลสีเหลือง มาผูกแขน เรียกขวัญให้ทั้ง 2 คน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ให้พ่อกับแม่ของนายจิรายุ สุกใส ลูกชายที่ได้รับบาดเจ็บทำงานที่ฉนวนกาซ่า ประเทศอิสราเอล ให้มีกำลังใจต่อสู้ ให้ร่างกายแข่งขันแรงปลอดภัย พร้อมทั้งพากัน จัดทำเครื่องเซ่นไหว้ เพื่อรอรับขวัญ นายจิรายุ ที่จะเดินทางกลับมายังบ้านในอีก 2 วัน เพราะพรุ่งนี้ เมื่อเดินทางกลับมาถึง กรุงเทพฯก็จะมีญาติ ที่กรุงเทพฯรับตัวนายจิรายุ ไปพบแพทย์ เพื่อการรักษาบาดแผลที่ได้รับจากการการถูกยิง จากนั้นจะได้เดินทางกลับบ้านที่บ้านโพธิ์ อ.ท่าตูมต่อไป
ด้านนายกำจร และนางจำรัส พ่อกับแม่ บอกว่า ลูกชายปทำงานอยู่ฟาร์มเพาะเลี้ยงไก่ เดินทางไปทำงาน ผ่านทางกรมแรงงาน หลังทราบข่าวว่าลูกโดนยิงตกใจมาก คิดถึงลูกอยากให้ลูกกลับมาเร็วๆ และดีใจมากๆที่เขาจะได้กลับถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้พ่อและแม่ร่วมถึงญาติพี่น้อง ต่างตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเห็นหน้าเขา เขาไปทำงานที่นั้นได้แค่ 4 เดือน เพิ่งส่งมาให้ได้ 2 เดือน ถือว่าเขาก็เป็นเสาหลักของครอบครัวคนหนึ่ง พรุ่งนี้ ทางญาติที่กรุงเทพเขาจะไปรับตัวลูกชายให้ และให้พ่อกับแม่รออยู่ที่บ้าน พอลูกชายมาถึงก็จะมีการทำพิธีรับขวัญให้เขา หากเขามีอาการอะไรตรงไหนก็จะพาไปหาหมออีกที เพราะถูกยิงที่ไหล่ขวา ตามภาพที่ส่งมาให้ดูแล้วก่อนหน้านี้ ตอนนี้ก็ได้เอาหัวกระสุนออกมาแล้ว
ด้านพ่อ บอกว่า ดีใจที่ลูกจะได้กลับบ้าน และปลอดภัยไม่เป็นอะไรมากนัก ปกติก่อนหน้านั้นลูกชายจะโทรมาคุยกับพ่อกับแม่ทุกวัน เขาเป็นลูกคนโตและเป็นคนไม่ดื้อเชื่อฟังพ่อแม่ และขอขอบคุณทุกๆหน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือจนลูกชายได้กลับมาบ้าน สู่อ้อมกอดพ่อแม่อย่างปลอดภัย