เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



รัฐบาล สั่งทุกภาคส่วนเร่งบูรณาการแก้ปัญหาลักลอบนำเข้าเนื้อเถื่อน


12 ต.ค. 2566, 16:05



รัฐบาล สั่งทุกภาคส่วนเร่งบูรณาการแก้ปัญหาลักลอบนำเข้าเนื้อเถื่อน




วันนี้ ( 12 ต.ค.66 ) เวลา 10.30 น. ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีการลักลอบค้าเนื้อสัตว์เถื่อนในประเทศไทย ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังว่า  การลักลอบนำเข้าค้าเนื้อเถื่อน ทั้งเนื้อวัว เนื้อกระบือ และเนื้อหมู สร้างปัญหาเรื้อรังให้กับเกษตรกรมาเป็นเวลานานซึ่งสร้างผลกระทบต่อกลไกลตลาด ต่อสุขภาพของผู้บริโภค และอาจก่อให้เกิดโรคระบาดของสัตว์ ซึ่งที่ผ่านมานั้นได้มีการตรวจจับการลักลอบค้าเนื้อสัตว์เถื่อนรายใหญ่ โดยเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม และวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา หัวหน้าด่านกักกันสัตว์จังหวัดเพชรบูรณ์ และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ได้ลงพื้นที่ตรวจจับเนื้อหมูเถื่อน ปรากฏว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการอายัดแล้วเกิดเหตุการณ์ปะทะกันขึ้น ทำให้หัวหน้าด่านกักกันสัตว์จังหวัดเพชรบูรณ์ถูกยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ สำหรับการปราบปรามเนื้อเถื่อนเป็นนโยบายที่รัฐบาลมีนโยบายดำเนินการอย่างจริงจัง โดยนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด 

นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่ได้ประกาศสงครามกับสินค้าการเกษตรที่ผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ได้ประสบปัญหาที่กระบวนการในการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย ทั้งเนื้อวัว เนื้อกระบือและเนื้อหมู เนื่องจากดำเนินการอย่างจริงจังในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายเรื่องนี้ให้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการเป็นขั้นตอนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำลายตู้คอนเทนเนอร์ที่ตกค้างที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการทำลายให้สิ้นซาก ซึ่งจากรายงานพบว่ามีตู้คอนเทนเนอร์ที่ตกค้างอยู่ที่แหลมฉบังอีกประมาณ 60 ตู้ และกำลังเป็นคดีความอยู่เนื่องจากการส่งมอบยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จึงต้องทำการสืบสวนสอบสวน โดยวันนี้ถึงกำหนดเวลาที่จะต้องเปิดตู้คอนเทนเนอร์เหล่านั้น เนื่องจากเกินระยะที่กำหนด พร้อมทั้งมีผู้ร้องเรียนว่ากรมปศุสัตว์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทางอธิบดีกรมปศุสัตว์และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการที่จะเปิดตู้คอนเนอร์เพื่อให้เห็นถึงความผิดปกติ ความไม่โปร่งใส และความไม่ถูกต้องของกระบวนการดังกล่าวนี้ การทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกรมปศุสัตว์ไม่ได้ดำเนินการโดยพลการ ได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอความร่วมจากฝ่ายความมั่นคง กรมศุลกากร และกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ได้รับการปฏิเสธจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าร่วมในการที่จะเปิดเผยของกลางที่ถูกจับ 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การลักลอบนำเข้าเนื้อเถื่อนมีผลกระทบต่อประเทศไทย 3 ด้าน 1. การลักลอบนำเข้าเนื้อเถื่อนนั้น สร้างผลกระทบอย่างหนักต่อกลไกตลาด การลับลอบนำเข้าเนื้อเถื่อนทำให้ราคาปศุสัตว์ ราคาวัวเนื้อ เนื้อกระบือ เนื้อหมู ตกต่ำลงมากขึ้น ขณะนี้ขาดทุนอย่างหนัก ถ้าขาดทุนไปเรื่อย ๆ การเลี้ยงหมู เลี้ยงวัวในประเทศไทยก็ต้องสูญเสียอาชีพเหล่านี้ไป 2. การลักลอบนำเข้าเนื้อเถื่อนมีโอกาสสูงที่จะนำโรคระบาดมาแพร่ระบาดในปศุสัตว์ของเมืองไทยซึ่งก่อนหน้านี้ 2 - 3 ปี มีการลักลอบนำเข้าเนื้อเถื่อนจนทำให้โรคอุบัติใหม่ พร้อมทั้งได้สร้างความเสียหายอย่างมากกับปศุสัตว์ของไทยอย่างมาก 3. ด้านความเสียหายที่เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค เนื้อเถื่อนที่เข้ามาไม่ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบสุขอนามัยใด ๆ สร้างความเสี่ยงด้านสุขอนามัยให้กับผู้บริโภค ดังนั้น จึงเป็นเหตุที่ทางรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งรัฐบาลตระหนักว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ผู้บริหารในแต่ละระดับ รัฐมนตรีว่าการฯ รัฐมนตรีช่วยฯ และกรมปศุสัตว์ ได้ตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามเนื้อเถื่อนอย่างเต็มที่ แต่เมื่อดำเนินการไปได้ระยะหนึ่งพบว่าขบวนการที่ทำอยู่เป็นขบวนการที่อิทธิพลและมีเครือข่ายที่ใหญ่ การปราบปรามถึงแม้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ทำอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีขีดจำกัด จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

“รัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบของการลักลอบนำเข้าเนื้อเถื่อน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดถือว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญและให้การสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมปศุสัตว์ อย่างดีที่สุดเพื่อให้เป้าหมายในการทำสงครามปราบปรามเนื้อเถื่อนที่เป็นภัยต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ และสุขอนามัย สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่รัฐบาลได้วางไว้ทุกประการ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำ









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.