มื่อเวลา 21.45 น. วันที่ 12 ต.ค. ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่า ร.ต.อ.จริยวัฒน์ แทนแก้ว รอง สว.(สอบสวน ) สภ.ท่าฉาง อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งยิงกัน หลังวัดจันทร์ธาราม หมู่ที่ 4 ต.ท่าฉาง อ.ท่าฉาง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ทางพลเมืองดี นำส่งร.พ.ท่าฉาง แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

 

ที่เกิดเหตุหน้าบ้าน 465 หมู่ 4 ต.ท่าฉาง บริเวณเพิงหน้าบ้าน พบศพ นายอุทัย เพ็งบูลย์ อายุ 76 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ สภาพนอนหงายเสียชีวิต พบปลอกกระสุน 9 มม. จำนวน 5 ปลอก และหัวกระสุน จำนวน 1 หัว เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วน ผู้บาดเจ็บ น.ส.เกศรา เพ็งบูลย์ อายุ 51 ปี บุตรสาว อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน อาการสาหัสพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลท่าฉาง แต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายพันธรัก เพ็งบูลย์ อายุ 20 ปีหลานชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ นายอุทัย ผู้เป็นปู่ และ น.ส.เกศรา ผู้เป็นอา ได้นั่งอยู่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันนายนิรุตติ์ เพ็งบูลย์ ได้ขับขี่รถ จยย.ฮอนด้า ฟีโน่ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียนเข้ามาหา และมีการพูดคุยโต้เถียงกันขึ้น ก่อนที่นายนิรุตติ์จะชักอาวุธยิงใส่นายอุทัยจนล้มฟุบลงกับพื้น ด้าน น.ส.เกศรา ซึ่งนั่งอยู่ใกล้กัน วิ่งเข้าประคองนายอุทัย พร้อมร้องห้ามไม่ให้ยิง แต่ถูกนายนิรุตติ์ยิงใส่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งขณะนั่นตนเองได้เดินออกมาจากห้องน้ำมายังหน้าบ้าน นายนิรุตติ์จึงเล็งปืนมายังตน จึงได้รีบประตูปิดแล้วหลบหนีออกทางหลังบ้าน ก่อนที่นายนิรุตติ์จะขับรถ จยย.หลบหนีไปด้านนายสมบัติ สมเพชร 53 ปี ลูกเขยนายอุทัย และพี่เขยน.ส.เกศรา ผู้เสียชีวิต กล่าวว่าสาเหตุนั้นคาดว่า เนื่องจากภรรยาคนร้ายได้ทำการยืมเงินตนเองจำนวน 3 แสนบาทและมีการดำเนินคดีโดยศาลนัดไกล่เกลี่ยเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันนอกจากการไกล่เกลี่ย และตนเองจะเข้ามาบ้านที่ที่เกิดเหตุในช่วงค่ำของทุกวัน แต่วันนี้เข้ามาและออกไปเร็วกว่าปกติ จึงไม่ได้เห็นเหตุการณ์ แต่ภรรยาคนร้านมีหนี้สินด้วยการยืมเงินคนในหมู่บ้านจำนวนหลายล้านบาทจนมีการฟ้องร้องกันหลายราย สำหรับของตนเองเป็นการฟ้องร้องรายล่าสุด โดยไม่ทราบว่าภรรยาผู้ต้องหาเอาเงินไปทำอะไร แต่ผู้ต้องหามีอาชีพเลี้ยงปลากระชัง