ปภ.รายงาน 4 จังหวัดเหนือ-อีสาน ยังมีสถานการณ์น้ำท่วม เร่งช่วยเหลือประชาชน
18 ต.ค. 2566, 15:15
วันนี้ ( 18 ต.ค.66 ) เวลา 09.50 น. ปภ.รายงานช่วงวันที่ 26 กันยายน - 18 ตุลาคม 2566 มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 37 จังหวัด 154 อำเภอ 586 ตำบล 2,978 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 62,180 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 จังหวัด 19 อำเภอ 83 ตำบล 486 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,714 ครัวเรือน ภาพรวมระดับน้ำลดลง ประสานพื้นที่เร่งคลี่คลายสถานการณ์และให้การช่วยเหลือประชาชนแล้ว
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ระหว่างวันที่ 26 กันยายน - 18 ตุลาคม 2566 เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 37 จังหวัด รวม 154 อำเภอ 586 ตำบล 2,978 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 62,180 ครัวเรือน ปัจจุบัน (ข้อมูลวันที่ 18 ต.ค. 66 เวลา 06.00 น.) ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี รวม 19 อำเภอ 83 ตำบล 486 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,714 ครัวเรือน แยกเป็น
1) พิษณุโลก น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังทอง อำเภอบางระกำ และอำเภอเมืองพิษณุโลก รวม 11 ตำบล 34 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 351 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
2) ร้อยเอ็ด น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียงขวัญ อำเภอทุ่งเขาหลวง และอำเภอจังหาร รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 106 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
3) กาฬสินธุ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอร่องคำ อำเภอฆ้องชัย อำเภอยางตลาด อำเภอกมลาไสย อำเภอสามชัย อำเภอท่าคันโท อำเภอหนองกุงศรี อำเภอสหัสขันธ์ และอำเภอห้วยเม็ก รวม 59 ตำบล 399 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,187 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
4) อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ และอำเภอสว่างวีระวงศ์ รวม 10 ตำบล 49 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,070 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำลดลงเกือบทุกพื้นที่ ยังคงมีที่จังหวัดร้อยเอ็ดที่มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถประกอบอาหาร เพื่อแก้ไขปัญหา เร่งระบายน้ำ และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”