ความคืบหน้าการติดตามคนร้ายในคดีหลอกนักเรียนชั้น ม.6 ชาว จ.นครศรีธรรมราช ซื้อโทรศัพท์แต่ไม่ได้สินค้าและกลายเป็นหนี้สิน จนสุดท้ายตัดสินใจจบปัญหาด้วยการผูกคอตัวเองเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้หลายคน

พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผู้บังคับการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5(ผบก.สอท.5)  เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท. ติดตามจับกุมตัว น.ส.ดอกแก้ว ชาวจ.ชัยภูมิ เจ้าของบัญชีม้า ที่ผู้เสียชีวิตโอนเงินไปให้จำนวนเกือบ 2 หมื่นบาท และจากการตรวจสอบเส้นทางเงินพบว่ามีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้และขออนุมัติหมายจับรวม 5 คน ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีม้า และคนกดเงินจากบัญชีม้า และ สามารถจับกุมตัว น.ส.ณัฎฐนิชา อายุ 39 ปี คนกดเงิน พร้อมเยาวชนอายุ 18 ปี และ 19 ปี 2 คน ที่ทำหน้าที่เป็นบัญชีม้า แถว 3 และ 4 ได้ที่จ.เชียงราย
 

ล่าสุด เจ้าหน้าที่คุมตัวมาสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (บก.สอท.5) ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ อาคาร B  พล.ต.ต.ชรินทร์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพ เยาวชนที่เปิดบัญชีม้า ได้ค่าจ้างบัญชีละ 3,000 บาท

ส่วนคนกดเงินได้รับการว่าจ้างจากชาวเมียนมาผ่านทางเฟซบุ๊ก ให้นำโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งแอปฯธนาคาร ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มฝั่งประเทศไทย โดยเป็นการกดแบบไม่ใช้บัตรเอทีเอ็ม และนำไปส่งให้ผู้บงการที่ชายแดนด่านแม่สาย ได้ค่าจ้างกดเงินครั้งละ 300-500 บาท ทำมาแล้ว 1 เดือน โดยแต่ละครั้งจะกดเงินตั้งแต่หลักพัน จนถึงหลักแสน ยอดล่าสุดที่กดเงินออกไปเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 66 จำนวนเงิน 104,000 บาท เชื่อว่า ยอดรวมที่กดเงินออกจากบัญชีน่าจะเกือบ 1 ล้านบาท

จากการสอบสวนยังทราบว่าเครือข่ายนี้ เป็นการขายสินค้าไอทีราคาถูก ต่างจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีผู้บงการอยู่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และจะจ้างคนเปิดบัญชีม้าอยู่บริเวณชายแดน เพื่อให้ควบคุมได้ง่าย บัญชีม้าแถว 1 จะใช้วิธีเปิดบัญชีออนไลน์ ส่วนบัญชีม้าแถว 2-4 จะใช้เยาวชนในพื้นที่ เพื่อให้ควบคุมได้ง่าย