ปลื้มปีติ! ในหลวงมีพระราชกระแสชมเชย "จิตอาสาระนอง" พร้อมรับเป็นข้าราชบริพารในพระองค์
13 ต.ค. 2562, 16:10
เมื่อวันที่ ( 10 ต.ค.62 ) เวลา 09.35 น. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.กัลย์สรรค์ จันทรเสน อัญเชิญพระราชกระแสทรงชมเชย แก่นายประภาส เรืองจันทร์ อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 หมู่ที่ 5 ตำบลมะมุ อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ที่บ้านของนายประภาส เรืองจันทร์ และมอบกระเช้าพรีเมี่ยมอุ่นไอรัก ให้ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือนายประภาส เรืองจันทร์ จำนวน 5 ราย โดยมีนายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นำหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมเหล่าจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. เข้าร่วมพิธี
พล.ต.กัลย์สรรค์ จันทรเสน ได้อัญเชิญพระราชกระแสของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ชมเชยนายประภาส เรืองจันทร์ ว่า นายประภาส เรืองจันทร์ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี และมีจิตอาสามานานหลายสิบปี อีกทั้ง เป็นผู้ที่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี และดำรงชีวิตด้วยความดีงาม เพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวมในชุมชน ควรได้รับการยกย่องชมเชยให้เป็นแบบอย่างแก่บุคคลทั่วไป
นายประภาส เรืองจันทร์ กล่าวว่า ตนเองดำรงชีวิตมาจนอายุ 74 ปี ด้วยจิตอาสาที่ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน ปฏิญาณตนว่าจะทำเพื่อชุมชน และช่วยเหลือผู้อื่น จนวันนี้ได้รับพระราชทานสิ่งของ และพระราชกระแสชมเชย ก็รู้สึกตื้นตัน และปิติเป็นอย่างมาก ซึ่งตนก็ขอปฏิญาณว่าจะประพฤติตน เพื่อดูแลชุมชนเป็นจิตอาสาตลอดไป
โดยในวันนี้ นอกจากจะมีพระราชกระแสทรงชมเชย และพระราชทานสิ่งของแล้ว พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงให้นายประภาส เรืองจันทร์ สมัครเข้ารับราชการเป็นข้าราชบริพารในพระองค์ สังกัดสำนักพระราชวัง ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง โดยอยู่ในความดูแลของสถานีตำรวจภูธรปากจั่น และได้ให้เจ้าหน้าที่นำตัวนายประภาส เรืองจันทร์ ไปตรวจสุขภาพอย่างละเอียดต่อไปด้วย ซึ่งในบริเวณพิธีได้มีหน่วยแพทย์พระราชทาน และโรงครัวพระราชทาน มาเปิดบริการให้กับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมพิธีในวันนี้ด้วย
ทั้งนี้ โครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. เป็นโครงการที่ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นเพื่อสานต่อพระราชปณิธานในการทำดีเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างไม่หวังสิ่งตอบแทน และสร้างจิตสำนึกที่ดีให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับชุมชนจนถึงระดับประเทศ และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับประชาชนทุกคน ที่มีจิตอันเป็นกุศลในการทำความดีเพื่อส่วนรวม