พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ประกอบพิธีวางพวงมาลาเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
23 ต.ค. 2566, 16:48
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นำข้าราชการและพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ประกอบพิธีวางพวงมาลาเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตและวันปิยะมหาราชด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และถวายเป็นราชสักการะกตัญญุตาบูชาแด่พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พร้อมด้วย รศ.ดร.พญ.เรวิกา ไชยโกมินทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กาญจนบุรี เขต 4 นายรณภพ เวียงสิมมา นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี และประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วมพิธีฯ
จังหวัดกาญจนบุรี ประกอบพิธีวางพวงมาลาและถวายบังคมเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ถวายพวงมาลัยพระกรพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้คล้องพวงมาลัยที่พุ่มสักการะทั้งสองด้านและวางพวงมาลาเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย ส่วนราชการหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน และภาคประชาชนในจังหวัดกาญจนบุรีร่วมวางพวงมาลาฯ จนเสร็จสิ้นพิธี
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์สยาม รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันอังคาร ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นพระองค์ที่ 1 ในสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี เสวยราชสมบัติเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 11 ขึ้น 15 ค่ำ ปีมะโรง พ.ศ. 2411 เสด็จสวรรคต ด้วยโรคพระวักกะ (ไต) เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 เวลา 2.45 นาฬิกา ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต สิริพระชนมายุได้ 57 พรรษา ตลอดรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอุทิศพระองค์บำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ และทรงปกครองพระราชอาณาจักรให้มีความมั่นคงและร่มเย็นเป็นสุข ทรงพระราชอุตสาหะเสด็จประพาสต้น เพื่อสดับตรับฟังทุกข์สุขของปวงพสกนิกรในท้องถิ่นต่าง ๆ พระองค์ทรงมีพระราชดำริพัฒนาชาติบ้านเมืองให้มีความเจริญรุ่งเรืองในทุก ๆ
ด้านทรงนำวิทยาการที่ได้จากการเสด็จพระราชดำเนินไปเยือนต่างประเทศ มาวางรากฐานการพัฒนาประเทศ ในด้านต่าง ๆ ทั้งการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิรูประบบการเงินการคลัง การศึกษา การสาธารณูปโภค ด้วยพระปรีชาสามารถและสายพระเนตรอันกว้างไกลทำให้ประเทศชาติพัฒนาก้าวหน้าทันสมัย ทรงยกเลิกระบบทาส ระบบไพร่ และทรงนำศาสตร์การปกครองของไทย และชาติสากล มาผนวกใช้ในการปกครองพระราชอาณาจักร นำพาชาติบ้านเมืองให้ผ่านพ้นภัยดำรงอธิปไตย และความเป็นเอกราชของชาติไว้ได้อย่างมั่นคง ทำให้ประเทศชาติมีความเจริญรุ่งเรืองพัฒนาไพบูลย์สืบเนื่องมาจนกาลปัจจุบัน พระปรีชาสามารถและพระเกียรติยศเป็นที่ประจักษ์แก่นานาอารยประเทศ