4. บรรจุสินค้า

ควรบรรจุสินค้าให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันความเสียหายระหว่างการขนส่ง โดยควรใช้บรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรงและเหมาะสมกับประเภทของสินค้า นอกจากนี้ ควรติดฉลากที่บรรจุภัณฑ์ระบุชื่อผู้ส่งและผู้รับ ที่อยู่ปลายทาง และหมายเลขติดตามพัสดุ

5. ชำระค่าธรรมเนียมการจัดส่ง

ค่าธรรมเนียมการจัดส่งจะแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการจัดส่งและน้ำหนักของพัสดุ สำหรับค่าธรรมเนียมศุลกากร ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าและมูลค่าของสินค้า โดยอาจต้องเสียภาษีนำเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าธรรมเนียมอื่นๆ

6. ดำเนินการด้านศุลกากร

เมื่อสินค้ามาถึงอเมริกา ผู้ให้บริการจัดส่งจะเป็นผู้ดำเนินการด้านศุลกากรให้ โดยอาจต้องเสียภาษีนำเข้าและค่าธรรมเนียมอื่นๆ หากสินค้าของคุณติดด่านศุลกากร เจ้าหน้าที่ศุลกากรอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมหรือปฏิเสธการนำเข้าสินค้าได้ เคล็ดลับในการส่งของจากไทยไปอเมริกาให้ผ่านด่านศุลกากร นอกจากการปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว ยังมีเคล็ดลับบางประการที่จะช่วยให้คุณส่งของไปอเมริกาให้ผ่านด่านศุลกากรได้

- ระบุมูลค่าสินค้าให้ถูกต้องตามความเป็นจริง

- แจ้งรายละเอียดสินค้าให้ครบถ้วน

- ติดฉลากที่บรรจุภัณฑ์ให้ชัดเจน

- เลือกผู้ให้บริการจัดส่งที่มีประสบการณ์

การทำตามเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้สินค้าของคุณผ่านด่านศุลกากรได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

- ใบขนสินค้าขาออก (Export Declaration): เอกสารที่ใช้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่จะส่งออก

- บัญชีราคาสินค้า (Invoice): เอกสารที่ใช้ระบุรายละเอียดของสินค้า เช่น ชื่อสินค้า ปริมาณ มูลค่า เป็นต้น

- รายการบรรจุสินค้า (Packing List): เอกสารที่ใช้ระบุรายการสินค้าและจำนวนสินค้าที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์แต่ละชิ้น