เมื่อวันที่ 24 ต.ค.66 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหินแก้ว อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ตัวแทนชาวบ้าน อาชีพทำสวน หมู่ 5 ตำบลหินแก้ว กว่า 30 คน เดินทางเข้าห้องประชุมพบนายธนนท์  พรรพีภาส  ปลัดจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายนพพร  มีสติ   ป้องกันจังหวัดชุมพร  นายสมบัติ  สิงห์คาร  นายอำเภอท่าแซะ และนายสุจินต์  สว่างศรี ปลัดอำเภอท่าแซะ

        โดยมีนายมนัส  เนตรสถิตย์  นายก อบต.หินแก้ว  นายสมชาย  แย้มรส  กำนันตำบลหินแก้ว  นายแฟน  วรรณาวิเศษ  ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับชาวบ้าน เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมและช่วยเหลือทางคดีกรณีชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลหินแก้ว จำนวน 2 คน ถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชุมพร(ทสจ.)ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.บุกจับพร้อมกับรถแมคโครเมื่อช่วงบ่าย ของวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา  นำตัวส่งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรม  กรมหลวงชุมพรทางทิศใต้บันทึกการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา กระทำความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ , พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ , พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า , พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวม 7 ข้อหา

         ภายหลังออกจากห้องประชุมผู้นำชุมชนพร้อมชาวบ้านเดินทางลงพื้นที่ป่า บ้านบางอินทนิน ซอยคับพุง หมู่ 5 ตำบลหินแก้ว อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรมฯมีชาวบ้านอยู่อาศัยหลายหลังคาเรือน พบว่ามีร่อยรอยการนำดินลูกรังมาถมถนนเส้นเดิมเป็นทางยาวประมาณ 100 เมตร โดยมีบ่อขุดใหม่ๆติดเชิงเขาจำนวน 1 บ่อ

         ผู้ใหญ่บ้านกำนัน และชาวบ้าน เปิดเผยไปในทิศทางเดียวกันว่า พื้นที่ดังกล่าวชาวบ้านปลูกบ้านเรือนพักอาศัยอยู่กันมานานหลายสิบปี ตั้งแต่สมัยเกิดพายุเกย์ มีอาชีพทำสวน ทำไร่ ถนนในหมู่บ้านที่ใช้สัญจรเป็นถนนลูกรังเป็นหลุมเป็นบ่อมานาน มีหน่วยงานซ่อมแซมบ้างเป็นบางครั้งแต่ใช้งานได้ชั่วคราวถนนก็พัง จะรองบประมาณของรัฐก็ไม่ไหวเพราะถนนสายดังกล่าวพังเสียหายมากยิ่งหน้าฝนน้ำซัดทางขาด  ชาวบ้าน นักเรียน เดินทางเข้าออกยากลำบาก  ได้รับความเดือนร้อนหนักกว่าจะรองบประมาณจากรัฐก็นานกว่าจะผ่านหลายขั้นตอน

      ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา จัดให้มีการประชุมหมู่บ้านประจำเดือน ชาวบ้านและผู้นำชุมชนมีมติเห็นชอบว่าจะซ่อมแซมถนน และช่วยกันลงขันเรี่ยไรเงินคนละ 100-200 บาท ได้เงินประมาณเกือบ 8 พันบาท เอารถแมคโครขุดลอกบ่อน้ำเก่า นำเอาดินมาถมทางเดิมที่มีอยู่แล้ว  

        หลังจากนั้นก่อนจะดำเนินการใดๆผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยอีกว่า ได้เข้าไปปรึกษาเขตรักษาพันธุ์ป่าฯแล้ว และอนุญาตให้ซ่อมแซมได้ แต่ลงมือทำได้เพียง 2 วันชาวบ้านถูกจับ 2 คน พร้อมกับรถแมคโคร 1 คันที่เจ้าของให้ชาวบ้านนำมาใช้ฟรีๆ เพียงแค่เสียเงินเป็นค่าเติมน้ำมันเท่านั้น

         ด้านนายก อบต.หินแก้ว  กล่าวว่า  ตามที่ทุกคนได้มาเห็นสภาพความเป็นจริง หลังได้รับแจ้งจากกำนันถึงความเดือดร้อน พร้อมทั้งชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันปรับปรุงถนน ซึ่งเป็นถนนเส้นเก่าที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนของหน่วยงานทำให้เกิดปัญหาจับกุม  แท้จริงแล้วการ สั่งการด้วยหนังสือเวียนถึงท้องถิ่นระดับประเทศ พื้นที่ ป่าสงวนฯ  เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ถ้าเป็นถนนเก่าที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ สามารถซ่อมแซมเพื่อการสัญจรได้ เพื่อบรรเทาทุกข์ให้ชาวบ้าน
        นายก อบต.กล่าวอีกว่า  ฝากถึงหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องดูแลในส่วนนี้ต้องทำความเข้าใจถึงระเบียบทางราชการออกมารองรับดูแลความเดือดร้อนของชาวบ้าน มันสวนทางกับหน่วยงานรัฐหรือไม่ ขอพูดเป็นตัวแทนท้องถิ่นในประเทศไทยวันนี้เกิดเหตุในตำบลหินแก้ว หน่วยงานรัฐไม่ว่า  กระทรวงทรัพย์ฯ หรือมติ ครม.ต้องปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน   ส่วนคดีที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านนั้น ทางปลัดจังหวัดได้รับเรื่องไปเห็นความเป็นจริงแล้ว เพื่อดำเนินการผ่อนหนักให้เป็นเบา พร้อมหาทางออกให้ผู้ต้องหาและรอความคืบหน้า   ส่วนตนนั้นจะติดตามความคืบหน้าให้ทุกคน”

       ส่วนปลัดจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ต้องแยกเป็น 2 ประเด็น 1.เรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯฝนตกหนักถนนขาดทางจังหวัด  อำเภอ  และอบต.หินแก้ว มีช่องทางแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยระเบียบความเดือดร้อนของประชาชน แต่ทั้งนี้มีปัญหาคือพื้นที่ติดอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ฉะนั้นต้องให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดำเนินการ หน่วยงานอื่นไปดำเนินการอาจผิดกฎหมายแต่ต้องดำเนินงานร่วมกัน โดยใช้งบประมาณท้องถิ่นเอง ในส่วนเรื่องคดีความมีการจับกุมอาจจะต้องดูถึงเรื่องเจตนาอีกครั้ง ทราบว่าทุกคนมีเจตนาแก้ไขความเดือดร้อนด้วยตนเอง ทางจังหวัดจะดูแลเรื่องคดีความให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกจับกุมและของกลางด้วย”