เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เจ้าของร้านนวดสปา ร้องสื่อวอนช่วยตามคดี หลังถูกชายฉกรรจ์ข่มขู่


26 ต.ค. 2566, 17:59



เจ้าของร้านนวดสปา ร้องสื่อวอนช่วยตามคดี หลังถูกชายฉกรรจ์ข่มขู่




สองสามีภรรยา ร้องสื่อถูก ถูกตามราวีหลังลาออกจากร้านนวดกลางเมืองนครปฐม มาเปิดร้านใหม่ ทำให้นายเก่าไม่พอใจได้ยินกระแสหมอนวดจะย้ายตามขอมาอยู่ด้วย พาพวกชาย 4 คนหญิง 1 คน มีชายแต่งกายคล้ายตำรวจไปด้วย บุกด่าหยาบคายถึงร้าน แจ้งความคดีไม่คืบ ล่าสุดถูกชาย 2 คนสวมไอ้โม่งบุกปาหินใส่กระจกร้านกลางดึก วอนตำรวจตามคดีให้ด้วยเพราะหากินแทบไม่ได้แล้ว 

วันที่ 26 ตุลาคม 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการร้านนวดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ว่าถูกชายฉกรรจ์หลายคนหนึ่งในนั้นเป็นชายแต่งกายคล้ายตำรวจร่วมด้วย ได้บุกขู่ถึงหน้าร้านหลังจากเปิดกิจการได้ไม่นานคาดว่าคู่แข่งทางการค้า เพราะเพิ่งลาออกมาตั้งร้านใหม่ไม่นาน โดยได้ไปแจ้งความไว้แล้ว แต่คดีไม่คืบ ล่าสุดถูกชาย 2 คนสวมไอ้หมวกไอ้โม่ง บุกใช้หินปาใส่กระจกร้านกลางดึก โดยวอนสื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ช่วยสงบศึกเพราะอีกฝ่ายเป็นคนมีอิทธิพลในพื้นที่ ตอนนี้เจ้าของร้านลูกจ้างผวาหนักหวั่นหากินไม่ได้ในพื้นที่  

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบยัง ร้านสบายกาย นวดเพื่อสุขภาพ เลขที่ 194/36-37 ถนนราชวิถี ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยได้พบกับนายกฤษตฌาพนธ์ บัวประเสริฐ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม เจ้าของร้านและนางสาวกัญญพัชร  สัตบุต อายุ 40 ปีชาวจังหวัดเพชรบุรี ผู้จัดการร้านฯ สองสามีภรรยา ซึ่งได้คลิบภาพวงจรปิดช่วงเวลาเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณตี 1 เศษของคืนวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมาซึ่งได้มีชาย 2 คนสวมหมวกคลุมหน้ามิดชิด ได้วิ่งมาที่หน้าร้านและได้ใช้ก่อนหินปาใส่กระจกร้าน 2 ก้อน ก่อนจะวิ่งหลบหนีไป โดยภายในร้านมีพนักงานหญิงที่นอนอยู่ในร้านเกือบถูกก้อนหินที่ปาเข้ามาในร้าน 


นอกจากนี้ยังได้มีการนำคลิบภาพและเสียง มาให้ผู้สื่อข่าวโดยปรากฏเป็นกลุ่มชาย 4 คนโดย 1 ในนั้นได้แต่งกายครึ่งท่อนคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและหญิงอีก 1 คน ได้มาที่หน้าร้านและขอเบอร์เจ้าของร้านโดยได้โทรไปพูดคุยด้วยความโมโหและพูดจาหยาบคายหลายนาที ซึ่งเชื่อว่าเป็นหนึ่งในคนดังในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ที่ไม่พอใจหลังจากมีการเปิดร้านดังกล่าวเพียงไม่กี่วันและเป็นคนที่เปิดธุรกิจเหมือนกันมาก่อเหตุ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กันยายน 66 

นางสาวกัญญพัชร  สัตบุต อายุ 40 ปีชาวจังหวัดเพชรบุรี บอกว่าเหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิบเป็นชาย 2 คนสวมหมวกไอ้โม่งได้เข้ามาปาหินใส่ร้านโดยก้อนแรกเกือบจะโดนพนักงานที่นอนในร้านและอีกก้อนตกอยู่หน้าเคาท์เตอร์ กระจกแตกกระจัดกระจาย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนคลิบที่มีชาย 4 คนมาที่หน้าร้านและ 1 ในนั้นเชื่อว่าเป็นตำรวจมากับหญิงอีก 1 คน เป็นการมาข่มขู่ตนเองที่กำลังทำงานในร้านโดยชายคนหนึ่งได้ทราบชื่อคือ นายฐา (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของร้านนวดเก่าที่ตนเองได้เคยทำงานอยู่และเพิ่งมาเป็นผู้จัดการร้านที่เกิดเหตุ โดยบอกว่าตนเองเป็นคนที่ไหน มาทำเก่งและมาเปิดร้านอะไรที่นี่ โดยมีการข่มขู่เพื่อจะขอเบอร์เจ้าของร้านสบายกาย โดยตนเองได้บอกว่าไม่อยู่ แต่ก็ให้ไปตามตัวมาหรือขอเบอร์มาให้ ตนเองจึงได้ตัดสินใจให้เบอร์โทรไปซึ่งก็ได้โทรไปด่าข่มขู่ต่างๆนานาและขู่ว่าจะทำทุกวิถีทางให้ร้านนี้ปิดให้ได้ โดยเหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมาและได้ไปแจ้งความไว้ก่อนหน้าแต่คดีก็ยังไม่คืบหน้า

นางสาวกัญญพัชร  บอกอีกว่า หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวซึ่งเป็นคนเดิมก็ได้ขับรถมาจอดที่หน้าร้านหลายครั้ง โดยครั้งหนึ่งก็มีการขับรถมาจอด 2 คันเป็นรถเก๋งคันหนึ่งและรถโตโยต้า ฟอร์จุนเนอร์ ซึ่งได้มีการเปิดกระจกมองหน้าลักษณะกดดันตามที่เขาได้พูดไว้แล้วหายเงียบไป ก่อนจะมีเหตุการณ์บุกมาปาที่กระจกร้าน ซึ่งก่อนหน้าเคยได้มีการไปปรึกษาผู้ใหญ่ที่เคารพให้ช่วยเจรจาโดยทางเขาก็รับปากว่าจะหยุด แต่ก็ยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก และตอนนี้ที่ร้านก็เสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่สามารถรับลูกค้าได้ โดยประเด็นหลักคือน่าจะเป็นหลังจากที่ตนเองได้ลาออกมาแล้วได้มาร่วมกันลงทุนกับสามี เพื่อเปิดร้านนวดซึ่งเป็นธุรกิจเหมือนกับที่ทำงานเดิมน่าจะเป็นชนวนความไม่พอใจของเจ้าของร้านเก่า และไม่กี่วันก่อนหน้าที่จะมีการปาหินใส่ร้านก็ได้มีกระแสว่าจะมีพนักงานนวดที่ร้านนั้นขอย้ายตามมาทำงานด้วย แต่ยังไม่ได้มาสมัครหรือเข้ามาพูดคุยกันก็เกิดประเด็นบุกนำชายหญิงตามมาด่าถึงร้านโดยที่พยายามเจรจาแล้วก็ไม่เป็นผล จนมีเรื่องล่าสุดในการปาหินเกิดขึ้น

ขณะที่ นายกฤษตฌาพนธ์ บอกว่า ตนเองเชื่อว่าเป็นความไม่พอใจของร้านที่ทำกิจการเหมือนกัน โดยผมได้พยายามไปร้องขอกับผู้ใหญ่แล้วซึ่งได้มีการโทรไปคุยกับเขาแล้ว ซึ่งที่นับได้ก็คือ 9 ครั้งที่มาก่อกวนเหมือนเขารับปากไปอย่างนั้น ซึ่งผมเป็นคนนครปฐมเหมือนกันรู้ว่าเขามีอิทธิพล แต่ผมอยากทำมาหากินไม่ได้อยากไปทะเลาะด้วย จึงขอฝากผ่านสื่อให้ตำรวจเข้ามาติดตามคดีเพราะทุกคนในร้านก็หวาดกลัวกันมากทำงานไม่ได้เลย ซึ่งเหตุการณ์ทั้ง 2 ครั้งก็ได้มีการแจ้งความไปแล้วที่ สภ.เมืองนครปฐม แต่เรื่องก็ยังเงียบ ทุกคนก็ยังวิตกหวาดกลัวอยู่ในตอนนี้ 









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.