คนร้ายลอบยิงโชว์เฟอร์รถบรรทุกดินดับ ตร.พบปมน้องชายแค้นแทนพี่สาวถูกทำร้าย
29 ต.ค. 2566, 14:16
วันที่ 29 ตุลาคม 66 เวลา 07.20 น. พ.ต.ท.ประเทือง แสงอร่าม พนักงานสอบสวนเวร สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม รับแจ้งมีคนถูกยิงที่บ่อดิน ม.7 ต.ดอนพุทรา อ.ดอนตูม จ.นครปฐม จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นายสุวิทย์ อังศุภากร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอดอนตูมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์เวรรพ.ดอนตูม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม
ในที่เกิดเหตุเป็นบ่อดินขนาดพื้นที่หลายไร่ ซึ่งระบุว่าเป็นกิจการของสิงห์ต้นสำโรง ผู้ประกอบการบ่อดินและรถบรรทุกรายใหญ่ของจังหวัดนครปฐม โดยที่บริเวณจุดช่างน้ำหนักรถบรรทุก เจ้าหน้าที่พบร่างของนายนพคุณ สอดสุขอายุ 44 ปีชาวจังหวัดนครปฐม นอนตะแคงข้างตัวเก็งอยู่ที่พื้นโดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่เบ้าตาซ้ายเลือดไหลเต็มใบหน้าร่างกายมีอาการเกร็งกระตุกอยู่ตลอดเวลาเจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาลปิดบาดแผลและเร่งนำตัวขึ้นรถพยาบาลไปที่โรงพยาบาลดอนตูม แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมาโดยที่รถบรรทุกพ่วง ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียนหัวลาก 90-3718 นครปฐม และตัวพ่วงหมายเลข90-3719 นครปฐมยังจอดติดเครื่องอยู่โดยที่ด้านหลังได้บรรทุกดินมาเต็มคันเตรียมขึ้นชั่งน้ำหนักเพื่อจะไปส่งลูกค้า ซึ่งช่วงเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ของบ่อดินดังกล่าวได้มีการบันทึกบันทึกคลิปในการช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับนายนพคุณโดยเป็นภาพโกลาหลอยู่ในที่เกิดเหตุ
นางรัชนี แก้วเสนมณี อายุ 52 ปี เจ้าหน้าที่ประจำเครื่องชั่งน้ำหนัก บอกว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองได้นั่งทำงานเพื่อจะออกตั๋วในการชั่งน้ำหนักของรถบรรทุกที่มารับดินจะไปส่งลูกค้า โดยรถของนายนพคุณ คนที่ถูกยิงได้มาจอดอยู่บนตาชั่งโดยเปิดเครื่องไว้ จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ตนเองจึงได้เดินออกมาดู และพบว่านายนพคุณนอนจมกองเลือดโดยมีอาการชักเกร็งจึงได้วิ่งไปช่วยให้คนมาปฐมพยาบาลก่อนจะโทรแจ้งตำรวจ ส่วนกล้องวงจรปิดที่อยู่ในที่เกิดเหตุตรงจุดช่างน้ำหนักเสียมานานแล้วและตนเองมองไม่เห็นว่ามีใครเป็นผู้ก่อเหตุเห็นอีกครั้งคือนายนพคุณนอนอยู่กับพื้นไปแล้ว
ส่วนนายพิพัฒน์ (นามสมมติ)อายุ 33 ปี บอกว่าตนเอง เพิ่งทราบข่าวเมื่อสายนี้และได้เดินทางมาที่บ่อดินดังกล่าว ก็เห็นภาพปรากฏว่ามีการช่วยเหลือนายนพคุณ เพื่อจะนำไปส่งโรงพยาบาลส่วนปมในการบุกยิงครั้งนี้ตนเองทราบข่าวจากภายในพื้นที่ว่าเมื่อหนึ่งถึงสองวันที่แล้วนายนพคุณได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายน้าสาวของตนเองชื่อว่านางประทุมไม่(ทราบนามสกุล) ซึ่งเป็นโชเฟอร์ขับรถบรรทุก 10 ล้ออยู่ที่เดียวกันกับคนก่อเหตุ โดยช่วงนี้ทั้งคู่ต้องขับรถบรรทุกมารับดินที่บ่อดินดังกล่าวเพื่อไปส่งที่ย่านบางแคกรุงเทพ ซึ่งคนโดนยิงมีลักษณะอารมณ์รุนแรงชอบพูดจาตะคอกใส่คนอื่นและข่มขู่คนขับรถบรรทุกด้วยกัน ส่วนคนก่อเหตุคาดว่าน่าจะชื่อนายมล (ไม่ทราบอายุและนามสกุล) น้องชายของประทุม ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุขณะนี้ได้หลบหนีไปแล้วน่าจะเกิดความแค้นว่าพี่สาวถูกทำร้ายจึงได้ตามมาแก้แค้นส่วนการขัดแย้งกับคนอื่นตนเองไม่ทราบ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 7 ได้เดินทางมาเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุโดยยังไม่พบหัวกระสุนหรือปลอกกระสุนว่าเป็นอาวุธปืนขนาดและชนิดใดที่คนร้ายนำมาก่อเหตุแต่จากการสอบถามพนักงานที่อยู่ในพื้นที่บ่อดินหลายคนบอกว่าเห็นมือยิงขับขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่บ้านพักคนงาน โดยเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟไม่ทราบทะเบียนมาจอดรออยู่เมื่อเห็นนายนพคุณนำรถมาขึ้นชั่งน้ำหนักและลงมาเพื่อตรวจสอบสภาพรถจึงได้ตรงลงมายิงก่อนหลบหนีไปท่ามกลางความชุลมุนในช่วงเช้า ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกำลังกับชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครปฐมและสืบสวนภูธรภาค 7 ในการไล่ล่าติดตามตัวนายมนต์มือยิงโดยทราบว่าน่าจะหลบหนีไปแล้วในพื้นที่เขตภาคเหนือโดยกำลังมีการติดตามเพื่อดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการก่อเหตุใช้อาวุธปืนในการทำร้ายผู้อื่นอีกครั้งหลังจากตำรวจภูธรภาคเจ็ดได้มีคำสั่งชัดเจนห้ามมีการพกพาอาวุธปืนออกมานอกสถานที่และให้มีและใช้เครื่องกระสุนปืนในบ้านเรือนหรือในองค์กรเพื่อปกป้องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเท่านั้น หลังจากมีคดีกำนันนก