อยากทำคะแนนเข้ามหาลัยให้ดี ต้องไม่พลาดติวแกทแพท !
2 พ.ย. 2566, 08:59
ติวแกทแพทหรือที่ในปัจจุบันควรเรียกว่า การติว TGAT TPAT เป็นสิ่งสำคัญที่น้อง ๆ วัยมัธยมปลายทุกควรให้ความสำคัญเพราะคะแนนสอบ TGAT TPAT นั้นจะส่งผลต่อการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยของน้อง ๆ ทุกคน ในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ มารู้จักกับการสอบ TGAT TPAT พร้อมบอกแนวทางการติวแกทแพท ให้ได้คะแนนสอบ TGAT TPAT ดี ๆ
รู้จักการสอบ TGAT TPAT
การสอบ TGAT TPAT คือการสอบเพื่อวัดความถนัดทั่วไปและวิชาเฉพาะ เพื่อใช้ในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ
1. TGAT เป็นการทดสอบความถนัดทั่วไป
ประกอบด้วย 3 วิชา ได้แก่
- การคิดอย่างมีเหตุผล (Critical & Logical Thinking)
- สมรรถนะการทำงาน (Future Workforce Competency)
2. TPAT เป็นการทดสอบความถนัดวิชาเฉพาะ
ประกอบด้วย 5 วิชา ได้แก่
- TPAT1 ความถนัดทางแพทย์ศาสตร์
- TPAT2 ความถนัดด้านศิลปกรรมศาสตร์
- TPAT3 ความถนัดด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์
- TPAT4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
- TPAT5 ความถนัดครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์
ระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปัจจุบัน
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปัจจุบันใช้ระบบ TCAS (Thai University Central Admission System) ซึ่งเป็นระบบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา โดยระบบ TCAS แบ่งออกเป็น 5 รอบ ได้แก่
รอบที่ 1 Portfolio พิจารณาจากผลงานและกิจกรรมต่างๆ ของผู้สมัคร
รอบที่ 2 Quota พิจารณาจากผลการเรียนของผู้สมัคร
รอบที่ 3 Admission 1 พิจารณาจากคะแนนสอบ TGAT TPAT และคะแนนจากกิจกรรมต่างๆ ของผู้สมัคร
รอบที่ 4 Admission 2 พิจารณาจากคะแนนสอบ TGAT TPAT และคะแนนจากกิจกรรมต่างๆ ของผู้สมัคร
รอบที่ 5 Direct Admission พิจารณาจากคุณสมบัติเฉพาะของผู้สมัคร
ในแต่ละรอบจะมีรูปแบบการคัดเลือกที่แตกต่างกันไป และมีเกณฑ์ และสัดส่วนคะแนนต่าง ๆ แตกต่างกันไป โดยมหาวิทยาลัยต่างๆ จะเป็นผู้กำหนดเกณฑ์การคัดเลือกและประกาศรับสมัครตามรอบต่าง ๆ เอง
คะแนนสอบ TGAT TPAT ใช้ยื่น TCAS รอบใดบ้าง?
คะแนน TGAT TPAT สามารถใช้ผลคะแนนในการยื่น TCAS รอบ Portfolio, Quota และ Admission ได้ ดังนั้นน้อง ๆ ที่ตั้งใจยื่น TCAS รอบเหล่านี้จึงจำเป็นต้องติวแกทแพท และทำคะแนนสอบให้ได้ดี
แนวทางการเตรียมตัว และติวแกทแพท
1. ศึกษาเนื้อหาและฝึกทำข้อสอบ เป็นการเพิ่มความมั่นใจในการสอบ
2. ฝึกฝนทักษะต่างๆ ที่จำเป็นในการสอบ เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการเขียนภาษาอังกฤษ
3. พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจพร้อมสำหรับการสอบ
4. อ่านโจทย์ให้เข้าใจก่อนลงมือทำข้อสอบเพื่อจะได้วางแผนในการตอบคำถามได้
5. ควรทำข้อสอบที่ทำได้ก่อน เพื่อจะได้มีเวลาทำข้อสอบที่เหลือ
6. หากทำข้อสอบไม่ได้ อย่าเสียเวลากับข้อนั้น ให้ข้ามไปทำข้ออื่นก่อน
7. ก่อนส่งข้อสอบควรตรวจทานคำตอบให้รอบคอบ เพื่อลดโอกาสในการตอบผิด
การสอบ TGAT TPAT เป็นสิ่งสำคัญในการสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ดังนั้น ผู้ที่ต้องการสอบ TGAT TPAT ควรติวแกทแพทให้พร้อมทั้งความรู้และความพร้อมทางร่างกายและจิตใจ เพื่อให้สามารถสอบได้คะแนนตามที่ต้องการ