เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 2 พ.ย.66 นายพงศธร พร้อมขุนทด หัวหน้าวนอุทยานเขาตาม่องล่ายได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน ว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าได้รับความเดือดร้อนจากการที่มีลิงหนุ่มขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว ออกรื้อสิ่งของเพื่อหาของกินตามบ้านเรือนประชาชน ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน บริเวณหมู่บ้านหนองหูช้าง หมู่ 2 ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงได้ร่วมกับ นายทรงพล บุญธรรม ปศุสัตว์จังหวัดประจวบฯ จัดกำลังพลเจ้าหน้าที่วนอุทยานบูรณาการร่วมกันกับสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปศุสัตว์อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นำกรงขังขนาดใหญ่ และอุปกรณ์วางยาสลบระยะไกล ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน โดยมี สมาชิก อบต.หมู่ 2 ผู้นำท้องที่ และชาวบ้านยืนเฝ้าลิงแสมรอเจ้าหน้าที่**

 

 

 

 

 

โดยเมื่อไปถึงพบว่าลิงแสมมีขนาดตัวที่ใหญ่เป็นลิงหนุ่มวัยเจริญพันธุ์ จำนวน 1 ตัว คาดว่าแตกฝูงมาจากเขาช่องกระจก หรือถูกขับไล่ออกจากฝูงกำลังไต่สายไฟเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณริมถนนสายเพชรเกษม-บ้านหนองเสือ โดยหลบหนีจากการถูกขับไล่ของชาวบ้านบริเวณหมู่ 2 บ้านหนองหูช้าง มุ่งหน้าไปยังป่าสวนมะพร้าวของชาวบ้าน หมู่ 5 บ้านหนองเสือ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อุปกรณ์วางยาสลบระยะไกล เพื่อให้ลิงแสมมีอาการสงบก่อนจับใส่กรงขังนำกลับไปดูแลยังวนอุทยานเขาตาม่องล่าย แต่ในระหว่างดำเนินการวางยาสลบระยะไกลเกิดความทุลักทุเล เนื่องจากลิงหนุ่มมีความเฉลียวฉลาดไต่สายไฟหลบหนีไปเรื่อยๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์วางยาสลบระยะไกลจึงทำให้พลาดเป้าหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก เนื่องจากลิงไม่ยอมหยุดนิ่งและในเมื่อยาสลบยิงถูกเป้าหมายแล้วลิงแสมกลับใช้มือดึงเอาเข็มสลิงยาสลบออกมาคาบใส่ปากไว้แล้วไต่สายไฟหนีต่อไปอีกเรื่อยๆ แต่ยาสลบที่ถูกยิงไปเริ่มออกฤทธิ์ทำให้ลิงแสมมีอาการมึนงง และง่วงนอน จึงทำให้ร่วงตกลงมาสู่พื้นและสลบไป ทำให้เจ้าหน้าที่วนอุทยานเขาตาม่องล่ายสามารถจับใส่กรงขังได้ง่ายขึ้นและนำกลับไปดูแลยังวนอุทยาน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านได้ แต่ยังเหลืออีก 1 ตัว ที่ยังหาไม่พบซึ่งต้องรอให้ชาวบ้านที่พบเห็นแจ้งมายังหน่วยงานอีกครั้ง แล้วค่อยดำเนินการวางยาสลบจับตัวต่อไป