หนุ่มวัย 20 ขับรถชนท่อสูบน้ำขวางถนน อาการโคม่า ล่าสุดนายกวังศาลา ยอมรับจนท.ประมาท
6 พ.ย. 2566, 16:27
จากกรณีมีผู้โพสต์ภาพชายอายุประมาณ 20 ปี นอนอยู่กลางถนนบริเวณคันคลองบ้านวังทอง ซอย 3 เขตพื้นที่ติดต่อบ้านสำนักคร้อ หมู่ 10 ตำบลวังศาลา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี สภาพใบหน้าบวมเป่งตาทั้งสองข้างปิดสนิทเลือดออกทั่วใบหน้าคล้ายคนถูกทำร้ายร่างกาย โดยผู้โพสต์ดังกล่าวได้ประกาศตามหาญาติในช่วงเวลา 03.00 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ล่าสุดนายกวังศาลา ยอมรับเจ้าหน้าที่ทำงานประมาทเก็บป้ายเตือน แต่ยังไม่ย้ายท่อจนเกิดเหตุสลด
ต่อมาวันเดียวกันมีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อว่า Persia Jongtawon ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ จังหวัดกาญจนบุรี ได้โพสต์ภาพท่อสูบน้ำขนาดใหญ่วางขวางถนนทั้งสองเลนและภาพรถจักรยานยนต์ที่ตกลงไปในคลองชลประทาน พร้อมกับภาพกองคราบเลือดจำนวนมากบนพื้นถนน พร้อมกับระบุข้อความว่า จากกรณีที่ผมได้โพสต์ตามหาญาติน้องเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจวังศาลา ว่าให้รถพยาบาลออกรับผู้บาดเจ็บโดนทำร้ายร่างกาย ที่บ้านวังทอง หมู่ 10 ตำบลวังศาลา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ช่วงนี้ได้พบทางญาติน้องเรียบร้อยแล้วครับ สรุปน้องไม่ได้โดนทำร้ายร่างกายครับ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าน้องขับขี่รถจักยานยนต์มาแล้วชนเข้ากับท่อสูบน้ำขนาดใหญ่ที่เอามาตั้งสูบน้ำโดยที่ไม่มีป้ายบอกให้ระมัดระวังเลย เนื่องจากจุดเกิดเหตุเมื่อคืนมืดมาก แล้วรถจักยานยนต์น้องตกลงไปในน้ำด้วย จุดที่พบผู้บาดเจ็บห่างจากจุดวางท่อน้ำประมาณ 20 เมตรได้
หลังจากที่โพสต์ข้อความดังกล่าวลงได้มีคนเข้ามาคอมเม้นต์เป็นจำนวนมากต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการนำท่อสูบน้ำขนาดใหญ่มาติดตั้งขวางถนนสาธารณะโดยไม่มีป้ายบอกหรือไฟแจ้งเตือนให้ทราบว่ามีการติดตั้งท่อสูบน้ำอยู่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าว ONB news ได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังบริเวณเกิดเหตุ พบกองคราบเลือดจำนวนมากอยู่บนพื้นถนนและยังพบร่องรอยรถจักรยานยนต์ที่ไถลตกลงไปในคลองส่งน้ำชลประทาน และยังพบว่าได้มีการถอดท่อสูบน้ำที่ขวางถนนออกไปแล้ว และมีการตั้งกรวยรอบบริเวณเครื่องสูบน้ำดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งพบว่าเครื่องสูบน้ำเครื่องนี้เป็นของเทศบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลวังศาลา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
เบื้องต้นพบว่าผู้บาดเจ็บมีชื่อว่านายภูธเนศ ขาวบู่ อายุประมาณ 20 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการ ส่งตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลมะการักษ์ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี รายงานข่าวแจ้งว่าตอนนี้อาการของผู้บาดเจ็บ 50/50 ต้องทำการดูแลอย่างใกล้ชิดเนื่องจากบริเวณบริเวณศีรษะชนกับท่อสูบน้ำขนาดใหญ่อย่างแรง ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปทางญาติผู้บาดเจ็บ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ในส่วน ของผู้รับผิดชอบเครื่องสูบน้ำเนื่องจากเป็นวันอาทิตย์จึงไม่สามารถติดต่อใครได้เช่นกัน
ล่าสุด นายกเทศบาลตำบลวังศาลายอมรับ เจ้าหน้าที่ทำงานประมาทเลินเล่อ เก็บป้ายเตือนแต่ยังไม่ย้ายเครื่องสูบน้ำ จนเกิดอุบัติเหตุรถ พร้อมควักเงินส่วนตัวดูแลคนเจ็บและครอบครัวถึงที่สุด ส่วนพนักงานที่รับผิดชอบเครื่องสูบน้ำถูกตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยโทษฐานปฏิบัติหน้าที่ประมาทเลินเล่อ
ความคืบหน้า ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่สำนักงานเทศบาลตำบลวังศาลา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี และได้พบกับนายวิสุทธิ์ วอนเพียร นายกเทศมนตรีตำบลวังศาลา โดยทางนายกได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เทศบาลยอมรับว่าเครื่องสูบน้ำดังกล่าวเป็นของทางเทศบาลจริง โดยที่นำไปติดตั้งบนถนนสายดังกล่าวนั้น เนื่องจากได้รับการร้องขอจากชาวบ้านที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ ว่ามีน้ำท่วมขังอยู่บริเวณตัวบ้าน เทศบาลจึงนำเครื่องสูบน้ำไปสูบน้ำจากบริเวณบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนไปลงในลำคลองสาธารณะ โดยหลังจากดำเนินการสูบน้ำเสร็จเรียบร้อยในช่วงเย็น เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบดูแลเครื่องสูบน้ำ ได้ขนย้ายป้ายเตือนระวังเครื่องสูบน้ำออกจากบริเวณจุดเกิดเหตุ แต่ยังไม่ได้เคลื่อนย้ายเครื่องสูบน้ำออกไป เนื่องจากในวันเกิดเหตุเป็นวันหยุดราชการ และเครื่องสูบน้ำดังกล่าวมีขนาดใหญ่ต้องใช้รถยกมาช่วยในการขนย้าย จึงยังไม่ได้ขนย้ายออกจากจุดเกิดเหตุ กระทั่งผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นชาวบ้านนอกพื้นที่ ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาจนเกิดอุบัติเหตุสลดดังกล่าวขึ้น
หลังจากทราบเรื่อง ทางเทศบาลได้จัดการประชุมด่วนร่วมกับผู้แทนของทางอำเภอท่าม่วง รวมถึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาเอาผิดทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมดูแลเครื่องสูบน้ำของทางเทศบาลในฐานความผิดปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อ ในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น ตัวนายกเทศมนตรีตำบลวังศาลาพร้อมคณะผู้บริหารได้เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 เรียบร้อยแล้ว พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นจำนวน 25,000 บาท โดยใช้เงินส่วนตัวของทางนายกเทศมนตรีตำบลวังศาลาในการเยียวยา ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลต่างๆก็จะดูแลให้จนถึงที่สุด ทั้งนี้ เทศบาลยอมรับว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มาจากการปฏิบัติหน้าที่ที่ประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่ควบคุมเครื่องสูบน้ำเอง หลังจากนี้จะมีการดูแลควบคุมไม่ให้มีการนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งในลักษณะดังกล่าวอีกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นมาอีก