ความคืบหน้าจากเหตุการณ์ดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง บ้านของผู้ต้องหาในซอยเมืองชุมพร 19 ริมถนนสายชุมพร-ระนอง หลังจากขอประกันปล่อยตัวชั่วคราวปรากฏว่าปิดบ้านเงียบไม่มีใครอยู่บ้าน  แต่ด.ญ.วัย 14 ปีได้กระโดดน้ำฆ่าตัวตายบนสะพานกรุงเทพเมื่อช่วงสายวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งตำรวจสภ.เมืองชุมพร อยู่ในระหว่างสรุปสำนวนและรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ รพ.มอ.ส่งให้อัยการฟ้องต่อศาล

        สำหรับผู้ก่อเหตุนั้นจากการเปิดเผยจากพยาน ทราบว่าอดีตเคยเป็นเสี่ยเจ้าของกิจการเต้นขายรถมือสองอยู่ในพื้นที่เมืองชุมพร แต่ปัจจุบันได้ปิดกิจการเต้นรถไปแล้วโดยปรับเป็นพื้นที่เปล่าและห้องให้เช่า  และยังมีกิจการอื่นๆอีกหลายอย่าง อีกทั้งยังเป็นเจ้าของสวนทุเรียนหมอนทองอีกจำนวนหลายไร่ เข้าข่ายผู้ทรงอิทธิพลทางการเงินและเป็นคนกว้างขวางมีชื่อเสียงในพื้นที่จังหวัดชุมพรอีกด้วย

        โดยบ้านหลังดังกล่าวผู้ต้องหาได้พักอาศัยอยู่กับภรรยาคนที่สามซึ่งเป็นน้องสาวของแม่แท้ๆของด.ญ.วัย 14 ปี(ผู้ตาย) ซึ่งก่อนหน้านี้คนตายได้พักอาศัยอยู่ด้วยกันจนถูกนายชาติ มีศักดิ์เป็นน้าเขยล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่ 6 ขวบจนถึงอายุ 14 ปี จนเมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ทำให้พ่อบังเกิดเกล้าที่เลิกกับแม่เด็ก และได้ภรรยาใหม่มาใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพมหานครทราบเรื่องจึงพาลูกสาวเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร พร้อมทั้งพาลูกสาวมาเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งเปิดเทอมได้เพียง 4-5 วันก็คิดสั้นกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย โดยปมเหตุนั้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุใดทำให้ต้องตัดสินในกระโดดสะพาน

        จากปากพยานคนหนึ่งให้ข้อมูลว่า เห็นเด็กหญิงคนดังกล่าวตั้งแต่เด็ก อุปนิสัยภายนอกเห็นยิ้มแย้มดี หลังจากกลับจากโรงเรียนในตัวเมืองชุมพร ตอนเย็นก็จะเห็นมาช่วยรดน้ำในสวนทุเรียนแปลงหน้าบ้านเกือบทุกวัน แต่เมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อนน้องเด็กผู้หญิงก็หายไปจนมาทราบว่าเสียชีวิตแล้ว รู้สึกใจหาย ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

      ด้านพล.ต.ต.ภานุเดช  ณ  พัทลุง ผบก.จ.ชุมพร เปิดเผยว่า ผลตรวจพิสูจน์จากนิติวิทยาศาสตร์ฯยังไม่ทราบ แต่ถ้าทราบผลก็ไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากอยู่ในสำนวนคดี”