ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พันตำรวจโท อุทัย เปี่ยมลาภ สว.(สอบสวน) สภ.ท่าเรือ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรายงานให้ พันตำรวจเอก สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.ท่าเรือ ทราบและรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พันตำรวจโท ชาญ บุญคง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าเรือ พันตำรวจโท อำนาจ ปรีชาวาท รอง ผกก.ป.สภ.ท่าเรือ และ จนท.พิสูจน์หลักฐานกาญจนบุรี  ร่วมตรวจสอบทันที ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัส จนท.มูลนิธิมิราเคิ้ลออฟไลฟ์ (ขุนรัตนาวุธ) นำตัวส่ง โรงพยาบาลมะการักษ์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

สำหรับบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวเลขที่ 42/2 และเปิดเป็นร้านเจ๊ตุ่น ตัดผมชายหญิง ริมคลองชลประทาน หมู่ 9 บ้านหนองขี้แรต ตำบลตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี  ที่บริเวณด้านหน้าบ้านพบรอยเลือดหยดอยู่บนพื้นบ้าน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ น.ส.อรนิภา ปลื้มจิตร อายุ 45 ปี เป็นเจ้าของร้านตัดผมดังกล่าว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณขมับขวาทะลุซ้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในห้องนอนมีกองเลือดขนาดใหญ่ที่มุมที่นอน พบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .22 มม.ตกอยู่ บรรจุกระสุน 6 นัด ตรวจสอบพบว่าใช้ยิงไปนัดเดียว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 

ส่วนทางด้าน นายทวิช พุคง อายุ 46 ปี สามีของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผมไม่แน่ใจว่าเขาป่วยเป็นโรคแพนิค ก่อนจะเป็นซึมเศร้า เขากินยาก็หายแล้ว และเพิ่งจะเริ่มกลับมาเป็นเพียงไม่กี่วันนี้แหละ แล้วก็คุยกันแล้วว่าจะไปหาหมอนั่นแหละ ก็อาบน้ำเตรียมตัวจะไปหาหมอ เขาเอากุญแจไปไขเก๊ะก็คิดว่าจะเอาตังค์ ที่ไหนได้เขาไปหยิบปืน ผมก็ห้ามไม่ทัน ก่อนหน้านี้เขาบ่นว่าเครียด ว่าเหนื่อย เคยเป็นเช่นนี้มาก่อนเขาก็กินยามาหลายเดือนอยู่  แล้วเขาก็หยุดกินไปแล้วเพราะหมอให้หยุดกินแจ้งว่าหายแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะเป็นอีกก็ช่วยดูแลกันอยู่ตลอด แล้ววันนี้จะพาไปหาหมอเพราะเขาเป็นโรคที่เขาเครียดนี่ล่ะ  เมื่อคืนกินยานอนหลับตกลงเช้าจะไปโรงพยาบาล คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุร้ายเช่นนี้ขึ้น

 

และสามียังเล่าเพิ่มเติมอีกว่าไม่คิดว่าเขาจะตัดสินใจไวขนาดนี้ กลางคืนเขาฝันว่ามีใครมาทำร้ายผม ก็คือว่าถ้าจบที่เขาผมก็ไม่ตาย ผมก็ลอกเขาว่าเป็นแค่ความฝัน ไม่มีใครมาทำร้ายเราได้หรอก เพราะมันคือความจริง ความฝันก็คือความฝัน เราก็บอกเขาว่าทุกวันไม่มีใครทำอะไรหรอก เราไม่มรวันตายหรอกผมก็บอกอย่างเงี๊ย เขาบอกง่าฝันมาหลายคืนแล้ว นอนไม่หลับทรมานมาหลายคืน เราก็ปลอบใจเฝ้าดูอาการอยู่ที่บ้านตลอด เวลานอนพอผมลุกเขาก็ลุก เขาคอยระวังว่าผมจะไปไหน ผมเข้าห้องน้ำนานเชาก็มาเรียกหาผมไปไหน เขาบอกอยากให้ผมมีความสุข ผมก็ว่าจะมีความสุขคือเขาไปหาหมอ  เขาก็โอเครตกลงอาบน้ำแต่งตัวแล้ว ส่วนปืนเป็นของเขาชื่อเขาเลย

 

ส่วนศพก็รอส่งกลับจากชันสูตรที่โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี ก็จะตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านนี้ ต่อมามูลนิธิมิราเคิ้ลออฟไลฟ์ (ขุนรัตนาวุธ)กาญจนบุรี นำศพ น.ส.อรนิภา ปลิ้มจิตร อายุ 45 ปี มาจากการชันสูตรของ รพ.ศูนย์ราชบุรี มาทำพิธีรดน้ำเคารพศพ โดยมีเครือญาติ ชาวบ้านใกล้เคียงมาจัดเตรียมสถานที่และร่วมรดน้ำเคารพศพ โดยมี สมาชิกกลุ่มรวมพลคนกาญจน์ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ที่เคยทำกิจกรรมร่วมกันกับผู้เสียชีวิต เคยวิ่งด้วยกันเพื่อสุขภาพ มาร่วมอาลัยด้วยความเศร้าโศกเสียใจ เพราะอยู่มาด้วยกันมาปีกว่า ครับครอบครัวของผู้เสียชีวิต เตรียมจัดงานศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน โดยมีกำหนดสวดอภิธรรม 3 คืน และมีพิธีฌาปนกิจ วันพฤหัสบดีที่ 16 พ.ย.66 ที่เมรุวัดตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี

 

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าผู้เสียชีวิต มีอาการป่วยในลักษณะภาวะซึมเศร้า ส่วนอาวุธปืนที่พบเป็นของผู้เสียชีวิตซึ่งได้รับโอนมรดกมาจากพ่อ มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี และ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บเขม่าดินปืนจากศพผู้เสียชีวิตและบุคคลในครอบครัว ไว้เป็นหลักฐาน แล้วก็จะมอบศพให้กับญาติดำเนินการบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป./