เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 14 ต.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ  พ.ต.ต.ชัยวัฒน์  เปี่ยมรัตนชัย  สว.สส.สภ.กันทรารมย์ และ ร.ต.อ.ทวีศักดิ์  จันทรง  พงส.สบ.1 ได้เชิญ นายสมพงษ์   โสลุน  อายุ 56 ปี  และ  นางบุญมา  โสลุน  อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่ 8 บ้านหนองมะแซว ต.ดูน อ.กันทรารมย์  จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายบุญส่ง  ทิพย์โพธิ์  อายุ  62 ปี  นายภวัต   ทองล้วน  อายุ  61 ปี ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของนายศักดา  โสลุน อายุ 40 ปี  ซึ่งเสียชีวิตเนื่องจากขับรถ จยย.ไปชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อเสียชีวิตเมื่อเดือน พ.ค. 2562 ได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนลักตัดศีรษะออกไปจากซองบรรจุศพที่อยู่ภายในป่าช้าของบ้านหนองมะแซว ต.ดูน อ.กันทรารมย์ และเป็นญาติของศพนายหนูสิน   ทิพย์โพธิ์  อายุ  62 ปี  ซึ่งเสียชีวิตเพราะโดนรถไฟทับบรรจุศพอยู่ใกล้กันและถูกคนร้ายลักตัดศีรษะไปเช่นกันมาทำการสอบสวนเพื่อหาข้อมูลเบาะแสของคนร้าย  โดยคาดว่ามีคนร้ายไม่น้อยกว่า 2 คน มาลักตัดศีรษะจากศพทั้ง 2 ศพไปในครั้งนี้

นายบุญส่ง  ทิพย์โพธิ์  อายุ  62 ปี ซึ่งเป็นญาติของศพทั้ง 2 ศพเล่าว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค.62 ที่ผ่านมา ญาติของตนที่ไปทำงานอยู่กรุงเทพ ได้กลับมาเยี่ยมบ้าน จากนั้น ก่อนจะเดินทางกลับ ได้เดินทางไปที่ป่าช้าบ้านหนองแวง เพื่อที่จะไปเคารพศพของ นายหนูสิน   ทิพย์โพธิ์  อายุ  62 ปี ซึ่งเป็นลุง  เมื่อไปถึงพบว่า ซองบรรจุศพของนายหนูสิน มีรอยถูกเจาะที่บริเวณด้านทิศตะวันตก จำนวน 1 ช่อง และที่ซองบรรจุศพของนายศักดา  มีรอยถูกเจาะจำนวน 2 ช่อง  จึงได้มาแจ้งให้ตนและญาติพี่น้องทุกคนทราบ  จึงได้พากันไปตรวจดู  และพบว่า ศีรษะของศพทั้ง 2 ศพหายไป  รวมทั้งทรัพย์สินซึ่งเป็นเงินสดจำนวนหนึ่งและโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องที่อยู่ในซองบรรจุศพได้หายไป  ตนและญาติพี่น้องจึงได้ไปแจ้งให้พนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ทราบ และได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ  แต่เนื่องจากว่า ใกล้ค่ำแล้ว จึงไม่สามารถที่จะตรวจสอบภายในซองบรรจุศพทั้ง 2 ศพ ได้อย่างละเอียด  ว่ามีสิ่งใดหายไปบ้าง  ต่อมา  วันที่ 11 ต.ค. 62  ญาติพี่น้องจึงได้พากันนำเอาวัสดุอุปกรณ์ไปปิดช่องซองบรรจุศพที่โดนคนร้ายเจาะทั้ง 2 ศพ รวมทั้งนิมนต์พระมาประกอบพิธีทางศาสนาด้วย เนื่องจากได้ไปปรึกษากับผู้ที่มีความรู้ด้านนี้แล้วแจ้งว่า จะต้องประกอบพิธีเรียกวิญญาณคืนภายใน 7 วัน หากเกินกำหนดจะไม่สามารถเรียกวิญญาณของทั้ง 2 ศพกลับคืนได้  และได้ทำการปิดเจาะช่องซองบรรจุศพที่โดนเจาะพร้อมทั้งเอาด้ายสายสิญจน์มาล้อมไว้  จากนั้น ได้นำเอาต้นไม้ที่มีหนามมาวางทับไว้  เพื่อป้องกันสัตว์ป่าและคนไม่ให้มาเจาะซองบรรจุศพทั้ง 2 ศพอีกต่อไป

นายสมพงษ์   โสลุน  อายุ  56 ปี และนางบุญมา  โสลุน  อายุ 51 ปี  พ่อและแม่ของนายศักดา ที่โดนลักศีรษะไป  กล่าวว่า  ตนเก็บศพของนายศักดาเอาไว้ เนื่องจากว่า ลูกชายเป็นผีตายโหงตามความเชื่อต้องเก็บศพไว้ 3 ปี จึงจะนำศพมาประกอบพิธีฌาปนกิจ ตนรู้สึกเสียใจมากที่ศพของลูกชายโดนลักเอาศีรษะไป  ทำให้นายศักดา กลายเป็นศพที่ไม่มีอวัยวะร่างกายครบถ้วน   ตนขอฝากวอนไปยังคนร้ายว่า ขอให้นำเอาศีรษะของลูกชายตนและศีรษะของนายหนูทิพย์ ซึ่งเป็นญาติของตนกลับมาไว้ที่เดิมด้วย  ซึ่งพวกตนจะไม่เอาเรื่อง และพร้อมที่จะให้อภัยคนร้ายรายนี้  เนื่องจากว่า เมื่อถึงเวลาฌาปนกิจตนไม่อยากให้ศพของลูกชายตนเป็นศพไม่มีศีรษะนั่นเอง

นายภวัต   ทองล้วน  อายุ  61 ปี กล่าวว่า  ก่อนที่จะประกอบพิธีปิดช่องบรรจุศพที่โดนคนร้ายเจาะ  ตนได้ตรวจสอบภายในซองบรรจุศพพบว่า ศพของนายศักดา กำลังเน่ามีหนอนตัวโตกำลังไต่อยู่ตามร่างกายและพบว่า ศีรษะหายไปตั้งแต่ต้นคอ  รวมทั้งได้ตรวจศพของนายหนูทิพย์ก็พบว่า ศีรษะหายไปเช่นกัน  รวมทั้งเงินสดและโทรศัพท์มือถือซึ่งญาติพี่น้องได้ใส่เอาไว้ในโลงศพได้หายไปด้วย  จากนั้นจึงได้ปิดช่องซองบรรจุศพที่โดนเจาะ ตนยืนยันว่า ศีรษะของญาติตนทั้ง 2 ศพโดนลักไปจริง    ตนคาดว่า คนร้ายลักเอาศีรษะของทั้ง 2 ศพซึ่งเป็นศพตายโหงทั้งคู่ เพื่อต้องการนำเอาไปประกอบพิธีทางไสยาศาสตร์บางอย่าง

ร.ต.อ.ทวีศักดิ์   จันทรง  พงส.สบ.1 ซึ่งเป็นร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า  ตนได้รับแจ้งความเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 62 เวลาประมาณ  18.00 น. ซึ่งใกล้ค่ำแล้ว จึงได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ  แต่เนื่องจากว่า  มืดมาก จึงไม่สามารถตรวจสอบภายในซองบรรจุศพที่โดนเจาะได้ว่า มีสิ่งใดสูญหายไปบ้างรวมทั้งศีรษะของศพทั้ง 2 ศพด้วย  ดังนั้น  ในวันที่ 15 ต.ค. 62 เวลา  09.00 น. ตนพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กันทรารมย์และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จะไปทำการเปิดซองบรรจุศพของทั้ง 2 ศพ เพื่อทำการตรวจสอบศพทั้ง 2 ศพอย่างละเอียดว่า ศีรษะโดนลักเอาไปหรือไม่ รวมทั้งมีทรัพย์สินอะไรที่หายไปบ้าง  เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป