วันนี้ ( 17 พ.ย.66 ) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทยมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบในช่วงฤดูหนาวหลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเริ่มต้นฤดูหนาว เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา จึงได้มีข้อสั่งการในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารภัยแห่งชาติ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ดำเนินการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยจากอากาศหนาว ปี 2566-2567 เพื่อให้สามารถดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึง

ทั้งนี้ กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติได้ติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าในช่วงเดือน ธ.ค. 66 และ ม.ค. 67 จะเป็นช่วงที่อากาศหนาวที่สุด และจะสิ้นสุดฤดูหนาวในเดือนก.พ. 67

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า  นายอนุทินให้ทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์สภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินสถานการณ์ผลกระทบในพื้นที่ สามารถแจ้งเตือนประชาชนได้ทันท่วงที และเจ้าหน้าที่สามารถประเมินการช่วยเหลือได้รวดเร็ว มีการทบทวนแผนเผชิญเหตุของจังหวัด โดยเฉพาะการสำรวจและปรับปรุงปรุงบัญชีกลุ่มเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ คนพิการ ทุพพลภาพ เด็กไร้ผู้อุปการะ สตรีมีครรภ์ ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ซักซ้อมแผนงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้พร้อมสำหรับเข้าช่วยเหลือประชาชน

พร้อมกันนี้ ต้องสร้างการรับรู้ และให้คำแนะนำให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพในช่วงฤดูหนาว เช่น การงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อคลายหนาว เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ (Hypothermia) จนอาจเสียชีวิตได้ ไม่ผิงไฟในที่อับอากาศเพราะอาจทำให้หมดสติและขาดอากาศหายใจ ประสานงานหน่วงานด้านสาธารณสุขเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการป้องกันโรคติดต่อในฤดูหนาว 

น.ส.ไตรศุลี  กล่าวว่า รมว.มหาดไทย ยังได้เน้นย้ำถึงนโยบายให้ทุกระดับของกระทรวงมหาดไทยสนับสนุนการกระตุ้นและฟื้นฟูการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทยคือการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ซึ่งในฤดูหนาวนั้นนักท่องเที่ยวจะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศเย็นเป็นจำนวนมาก จึงขอให้จังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวมีแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากการสัญจร เช่น กรณีถนนลื่น สภาพทัศนวิสัยต่ำจากหมอกหนา ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อติดตั้งสัญญาไฟ ไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณทางแยกและจุดเสี่ยง จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกประชาชนและนักท่องเที่ยว เป็นต้น 

นอกจากนี้  ให้มีการป้องกันการเกิดอัคคีภัยเนื่องจากฤดูหนาวมีสภาพอากาศแห้ง โดยให้เตรียมเจ้าหน้าที่ รถดับเพลิง รถบรรทุกน้ำและอุปกรณ์ดับเพลิงให้มีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที  จัดเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร ประชาชนจิตอาสาในการเฝ้าระวังอัคคีภัยในชุมชน สถานที่ท่องเที่ยว ตลอดจนรณรงค์ขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้ใช้วิธีไถกลบ แทนการเผาตอซังและวัสดุทางการเกษตร เพื่อลดความเสี่ยงเกิดอัคคีภัยและลดปัญหาหมอกควันด้วย