สศช.เผยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง ภาครัฐควรดำเนินนโยบายการเงินการคลังอย่างเหมาะสม
20 พ.ย. 2566, 16:02
วันนี้ ( 20 พ.ย.66 ) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ไตรมาสที่ 3 ของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ร้อยละ 0.8 รวม9 เดือนแรกของปีเศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 1.9 ด้านการใช้จ่ายการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวอยู่ในเกณฑ์สูงที่ร้อยละ 8.1 โดยการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง การลงทุนภาครัฐลดลงร้อยละ 2.6 ขณะที่ภาคการส่งออกลดลงร้อยละ 3.1 ภาคการท่องเที่ยวบริการ และสาขาการขนส่งขยายต้วอยู่ในเกณฑ์สูง เสถียรภาพทางเศรษฐกิจอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 0.99 ต่ำสุดในรอบ 15 ไตรมาส ทั้งนี้คาดว่าตลอด ปี 2566 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 2.5 อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 1.4 ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ 1.0 ของ GDP ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดว่าจะขยายในช่วงร้อยละ 2.7-3.7 หรือประมาณ ร้อยละ 3.2 ซึ่งมั่นใจว่าเศรษฐกิจยังขยายตัวต่อเนื่องและควรมีการปรับโครงสร้างการผลิต
เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยังแนะแนวทางในการบริหารจัดการเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปี 2566 และปี 2567 ด้วยว่า ภาครัฐควรดำเนินนโยบายการเงินการคลังอย่างเหมาะสมกับเงื่อนไขเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว โดยให้ความสำคัญต่อ Policy Space จัดลำดับความสำคัญของการใช้จ่าย เตรียมมาตรการรองรับผลกระทบจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ควบคู่การขับเคลื่อนการส่งออกสินค้า สร้างความเชื่อมั่นและสนับสนุนความเชื่อมั่นและสนับสนุนการลงทุนภาคเอกชน สนับสนุนการฟื้นตัวภาคการท่องเที่ยว ดูแลการผลิตภาคการเกษตร ป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้ง และเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายเหลื่อมปี และงบลงทุนรัฐวิสาหกิจในช่วงที่ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ยังไม่มีผลบังคับใช้