เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"นักผจญภัย" ทะลักพิชิตสันหนอกวัว! สัมผัสธรรมชาติ ท่ามกลางอากาศเย็น


24 พ.ย. 2566, 17:23



"นักผจญภัย" ทะลักพิชิตสันหนอกวัว! สัมผัสธรรมชาติ ท่ามกลางอากาศเย็น




 

วันนี้ 24 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายอภิสิทธิ สมบัติมาศ หรือหัวหน้าเบิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เปิดเผยว่า ด้วยอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามโดดเด่น เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวหลายแห่ง โดยเฉพาะบริเวณป่าเขาเขียว-เขาใหญ่ หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี ซึ่งลักษณะขอดเขาคล้ายหนอกวัว จึงเป็นที่มาของคำว่า  “สันหนอกวัว” ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สันหนอกวัว เป็นเส้นทางเดินเพื่อศึกษาธรรมชาติที่มีความท้าทาย มีระยะทาง 9 กิโลเมตร เป็นยอดเขาสูงสุดอันดับ 1 ในจังหวัดกาญจนบุรี ระดับความสูงที่ 1,767 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.)

 

ซึ่งอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชาและศึกษาธรรมชาติ ประจำปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.66-วันที่ 11 ก.พ.67 เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้สัมผัสและศึกษาธรรมชาติได้โดยตรง และเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองและดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติ ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ สามารถควบคุมดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อยู่ในขีดความสามารถในการรองรับได้

 

อุทยานแห่งชาติ จึงจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปวันละไม่เกิน 120 คน หรือประมาณ 15 กลุ่มๆละ 7 คน โดยมีค่าใช้จ่ายสำหรับทริปพิชิตสันหนอกวัว กลุ่มละ 6,000 บาท เมื่อนำไปเฉลี่ยกันจะตกกลุ่มละประมาณ  857 บาท  ถือว่าไม่แพง

 

 สำหรับ เขาสันหนอกวัว เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีระยะทางเดินเท้า 9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 6 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางจะได้พบกับความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่มีความหลากหลาย รวมถึงสัตว์ป่านานาชนิด ไฮไลต์คือจุดชมวิวบนยอดเขานั้นสามารถมองเห็นวิวธรรมชาติของผืนป่า รวมทั้งบรรยากาศเมฆหมอกที่ปกคลุมทิวเขา และมองเห็นทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ ได้ 360 องศา ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ช่วงเช้าและเย็นจะได้เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นและลงเมฆบนท้องฟ้าจะเปล่งประกายเป็นสีเหลืองทอง ส่วนในช่วงกลางคืนจะมองเห็นดวงดาวที่เปล่งประกายเต็มท้องฟ้า จะเป็นภาพที่สวยงามทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เพราะเฉพาะวันธรรมดาที่ไม่ใช่วันหยุดก็มีเป็นจำนวนมากแล้ว

 

นายอภิสิทธิ สมบัติมาศ หรือหัวหน้าเบิ้ม กล่าวว่า หลังจากจบทริปพิชิต “สันหนอกวัว” หากนักท่องเที่ยวยังพอมีเวลาพอสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวชมบรรยากาศความสวยงามของสะพานไม้อุตตมานุสรณ หรือสะพานมอญ รวมทั้งล่องเรือไปชมโบสถ์จมน้ำ หรือเมืองบาดาล วัดวังก์วิเวการามเก่า รวมทั้งไปชมโบสถ์ของวัดสมเด็จ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาริมทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ ภายในมีพระพุทธรูปที่เก่าแก่ดูศักดิ์สิทธิ์และสวยงามไปอีกแบบ

 

ขากลับแวะพักผ่อนคลายความง่วงนอนจากการขับรถ ด้วยการเที่ยวชมความสวยงามของน้ำตกเกริงกะเวีย ตั้งอยู่ริมถนนสาย 323 สังขละบุรี-ทองผาภูมิ หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี ซึ่งอุทยานแห่งชาติเขาแหลมได้จัดเตรียมสถานที่จอดรถเอาไว้อย่างสะดวกสบาย ภายในมีร้านสวัสดิการฯ จำหน่วยอาหาร ของที่ระลึกและกาแฟคอยบริการอีกด้วย

 

ด้านคุณสมรรถกร หรือพี่นก และคุณ จันทร์จิรา หรือพี่หญิง สระศรี สองสามีภรรยา ที่มาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกันกล่าวว่า ครอบครัวของเราอยู่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ประกอบธุรกิจหมู่บ้านจัดสรร ชื่อโครงการบ้านจันทร์จิรา วิลเลจ  สำหรับจังหวัดกาญจนบุรีเปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่สองของครอบครัวเรา เพราะสมัยเป็นเด็กเคยเรียนหนังสืออยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีมาก่อน ก่อนที่จะกลับไปอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

ถึงแม้ว่าจังหวัดสุราษฎร์ จะอยู่ห่างจากจังหวัดกาญจนบุรี ไกลถึง 800 กิโลเมตร ซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินทาง 8-9 ชั่วโมง แต่ไม่ใช่อุปสรรคของเรา เพราะทุกปีครอบครัวของเราจะเดินทางมาเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่ครอบครัวเรานับถืออยู่เป็นประจำทุกปี แต่ที่ผ่านมาไม่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวตามธรรมชาติมากนัก

 

มาในครั้งนี้จึงมีความตั้งใจว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนและชมบรรยากาศของบ้านอีต่อง ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ ซึ่งการเดินทางนั้นไม่ง่ายเลยเพราะต้องขึ้นและลงภูเขาที่สูงชันสองข้างทางเป็นหน้าผา และมีโค้งที่แตกต่างกันไปมากถึง 399 โค้ง ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายของคนขับรถทุกชนิดเป็นอย่างมาก แต่ความท้าทายนั้นเต็มไปด้วยอากาศที่เย็นสบาย สองฟากฝั่งร่มรื่นไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก การที่ได้มาเที่ยวชมบรรยากาศและนอนพักผ่อนที่บ้านอีต่องถือว่าคุ้มค่าเป้นอย่างมาก

 

และนอกจากนี้เรายังได้เดินทางไปเทียวพักผ่อนในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี ด้วยการนั่งเรือไปชมความสวยงานของโบสถ์จมย้ำ รวมทั้งสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ก่อนที่จะกลับมานอนพักผ่อนที่จุดชมวิวป้อมปี่ อีกด้วย เมื่อตื่นเช้ามาก็พบบรรดากลุ่มนักท่องเที่ยวที่แต่งตัวอย่างรุดกุม จากการสอบถามก็ทราบว่าทุกคนเดินทางมาเพื่อพิชิตสันหนอกวัว ระยะทาง 9 กิโลเมตร จากที่ได้ดูพบว่าทุกคนต่างก็มีร่างกายที่แข็งแรง ดังนั้นตนกับภรรยาจึงต้องการที่จะกลับมาพิชิตสันหนอกวัวให้ได้สักครั้งหนึ่งฝนชีวิต แต่จะขอกลับไปฟิตร่างกายให้แข็งแรงกว่านี้ก่อน แล้วเราจะกลับมาพิชิตสันหนอกวัวให้ได้

 



 


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.