ครม.ไฟเขียวประกันราคายางวงเงิน 2.4 หมื่นล้าน พร้อมต่ออายุหนุน 4 โครงการผลิตภัณฑ์ยาง
15 ต.ค. 2562, 16:35
วันนี้ ( 15 ต.ค.62 ) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุมเห็นชอบโครงการประกันรายได้ชาวสวนยาง และ 4 โครงการเร่งการแปรรูปยางและดูดซับปริมาณยางในระบบเพื่อยกระดับราคายางพารา โดยโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางพารา ระยะที่ 1 วงเงินงบประมาณ 24,000 ล้านบาท ครอบคลุมเกษตรกรจำนวน 1,400,000 คน พื้นที่ปลูกยางพารา 17 ล้านไร่
กำหนดระยะเวลาประกันรายได้ 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ถึงเดือนมีนาคม 2563 โดยประกันรายได้ในยาง 3 ชนิดคือ ยางแผ่นดิบคุณภาพดี ราคา 60 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) ราคา 57 บาท/กก. และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ราคา 23 บาท/กก.กำหนดปริมาณผลผลิตยางที่จะประกันรายได้ 240 กก./ไร่/ปี หรือ 20 กก.ไร่/เดือน
โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลพื้นที่ปลูกยางกับการยางแห่งประเทศไทยก่อนวันที่ 12 สิงหาคม 2562 และเปิดโอกาสให้เกษตรกรชาวสวนยางแจ้งขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่การยางไทยกำหนด โดยเป็นสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไปที่เปิดกรีดแล้ว สูงสุดรายละไม่เกิน 25 ไร่ โดยแบ่งสัดส่วนรายได้ เจ้าของสวน ร้อยละ 60 และคนกรีดยาง ร้อยละ 40
นอกจากนี้คณะรัฐมนตรี ยังอนุมัติอีก 4 โครงการคือ ขยายวงเงินสินเชื่อโครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ปะกอบการผลิตภัณฑ์ยาง วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท โดยอนุมัติวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมจำนวน 1 หมื่นล้านบาท รวมวงเงินสินเชื่อของโครงการ 2.5 หมื่นล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2563 – 2569 ขยายระยะเวลาดำเนินการโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยางแห้ง วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ออกไปอีก 2 ปี คือ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 ถึงเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคมนี้
ขยายระยะเวลาดำเนินการโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยาง วงเงินสินเชื่อ 1 หมื่นล้านบาท ออกไปอีก 4 ปี คือ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ถึง 31 มีนาคม 2567 โดยมีระยะเวลาจ่ายเงินกู้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2566 และกำหนดระยะเวลาชำระคืนเงินกู้คราวละไม่เกิน 12 เดือน นับแต่วันที่กู้ แต่ต้องไม่เกินวันที่ 31 มีนาคม 2567 ขยายระยะเวลาและปรับปรุงวิธีการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐ ออกไปอีก 3 ปี คือ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ถึงกันยายน 2565 เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ โดยคิดเป็นปริมาณน้ำยางสด จำนวน 1 ล้านตัน ตลอดระยะเวลาโครงการ 3 ปี