ความคืบหน้ากรณี ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี นำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ ไปขึ้นเงินที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาล ด้วยการนำเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขากาญจนบุรี เป็นเงิน จำนวน 30 ล้านบาท หลังจากหักภาษีแล้วเหลือเงิน จำนวน 29,850,000 ล้านบาท โดยหมวดจรูญ ได้เบิกเงินออกมาจากธนาคาร จำนวน 5,500,000 บาท ยังคงเหลือเงินอยู่ในบัญชีธนาคารอีก จำนวน 24,350,000 บาท

 

แต่ต่อมา ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ถูกนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในคดีแพ่ง เป็นคดีหมายเลขดำ ที่ พ.1230/2560 ในข้อหา ละเมิดลาภมิควรได้ ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้มีหนังสือถึงธนาคารกรุงไทย ให้ทำการอายัดเงินในบัญชีของ ร.ต.ท.จรูญ ซึ่งคงเหลือในบัญชี จำนวน 24,350,000 บาท เอาไว้ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.2560 นอกจากนี้ นายปรีชา ยังได้ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อทำการอายัดเงินในบัญชีของ ร.ต.ท.จรูญ อีกครั้งหนึ่ง โดยศาลจังหวัดกาญจนบุรี คดีแพ่ง ได้นัดให้ทั้งคู่ไปพบเป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 12 ก.พ.61

 

นอกจากคดีแพ่งแล้ว ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ยังถูกนายปรีชา ใคร่ครวญ ฟ้องคดีอาญาอีก 1 คดี ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประทับรับฟ้องในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร คดีอาญาจึงถือว่าเป็นคดีหลัก ศาลจึงจำหน่ายคดีแพ่ง เพื่อรอฟังคำพิพากษาในคดีอาญา และในวันที่ 4 มิ.ย.62 ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้มีคำพิพากษายกฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล แต่การยกฟ้องในวันดังกล่าว

 

นอกจากนี้ ยังมีคดีย่อยอีกหลายคดี โดยเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.60 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความส่วนตัวของ ร.ต.ท.จรูญ ได้เข้าพบ พ.ต.ต.ชัยวัชริศ สิงห์สังข์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ในคดีอาญา โดยแจ้งว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค.60 นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ได้ขายสลากกินแบ่ง หมายเลข 533726 จำนวน 5 ใบ ให้แก่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ในราคา 700 บาท ซึ่งเกินราคากว่าที่กฎหมายกำหนด

 

ต่อมาวันที่ 25 ต.ค.61 อัยการจังหวัดกาญจนบุรี พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีดังกล่าวพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้มีการเปรียบเทียบปรับเจ๊บ้าบิ่นไปแล้ว จึงเป็นกรณีที่ตามกฎหมายถือว่าคดีอาญานี้ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว จึงมีคำสั่งไม่ฟ้องเจ๊บ้าบิ่น จากนั้นเจ๊บ้าบิ่น ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ เป็นคดีอาญา หมายเลขคดีดำที่ อ.1095/2562 ในข้อหาฐานความผิด แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้นัดไต่สวนมูลฟ้อง ไปแล้ว 2 นัด นัดแรกวันที่ 15 ก.ค.และนัดที่ 2 วันที่ 13 ก.ย.2562 ส่วนวันนี้ 15 ต.ค.62 ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องคดีดังกล่าวเป็นนัดที่ 3

 

 

ล่าสุดเวลา 11.00 น.วันนี้ (15 ต.ค.62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความ ทนายความส่วนตัวของครูปรีชา ใครครวญ พร้อมทีมทนายความอีก 1 คน ได้เดินทางมาที่ศาล โดยโจทก์คือนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ไม่ได้เดินทางมาด้วย โดยก่อนหน้านี้ทราบว่าจะมีการไต่สวนมูลฟ้องพยานฝ่ายโจทก์คือนายประชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา และ ปาก น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช  แต่ประกฎว่าทั้ง 2 ไม่ได้เดินทางมาที่ศาลเช่นกัน

 

เวลาไล่เลี่ยกันฝ่ายจำเลย คือ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความ นางลาวัลย์ วิมูลย์ ภรรยาของหมวดจรูญ พร้อมทีมงานทนายความ ก็เดินทางมาถึง โดยที่ยังไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ได้ออกมาพบสื่อมวลชน พร้อมกับเปิดเผยว่า  วันนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่เจ๊บ้าบิ่น ฟ้องหมวดจรูญในฐานความผิด แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งศาลได้ไต่สวนมูลฟ้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้นัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งในวันที่ 19 พ.ย.เวลา 09.00 น..

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การไต่สวนมูลฟ้องครั้งนี้พยานฝ่ายโจทก์ได้เดินทางมาด้วยหรือไม่”นายวรยุทธ ตอบว่า การไต่สวนครั้งนี้ใช้ข้อมูลคำเบิกความเดิม เนื่องจากเป็นข้อเท็จจริงที่เคยเบิกความเอาไว้แล้ว ดังนั้นพยานจึงไม่ต้องเดินทางมา และศาลได้นัดฟังคำสั่งแล้ว เพราะว่าในชั้นนี้เป็นการไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งพยานฝ่ายโจทก์ได้นำเข้าเกความไปแล้ว

 

ถามว่าจะยื่นอุทธรณ์คดีหลักเมื่อไหร่”นายวรยุทธ ตอบว่า จะยื่นในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.)เวลาประมาณ 15.00-16.00 น.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ศาลท่านได้อนุญาตให้...ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงตรงจุดนี้แล้วมีความหนักใจอะไรหรือไม่”ทนายวรยุทธ ตอบว่า ไม่มีความหนักใจอะไร เพราะว่าข้อเท็จจริงมันปรากฏอยู่แล้ว เดี๋ยวในวันพรุ่งนี้หลังจากยื่นอุทธรณ์แล้วเสร็จ ก็จะได้ออกมาแถลงอีกครั้งหนึ่ง...ถามว่าเดิมทีคดีที่เจ๊บ้าบิ่น ฟ้องหมวดจรูญ ใช้ทนายความอีกคนหนึ่ง ทำไมวันนี้ทนายวรยุทธมาแทน”ทนายวรยุทธ ตอบว่า บังเอิญทนายวชิระ ทานท่า ติดภารกิจ จึงแต่งตั้งให้ตนมาดำเนินการแทน”นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส เผย

 

ต่อมาไม่นานนัก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความ  พร้อมด้วยร.ต.ท.จรูญ และนางลาวัลย์ วิมูล ภรรยา ก็ออกมาจากศาล โดยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เปิดเผยว่า วันนี้เป็นคดีสุดท้ายที่เขาฟ้องมาที่จะมีการไต่สวนครั้งสุดท้ายในปีนี้ คดีที่เหลือก็มีการจำหน่ายคดีและมีการยกฟ้องไปบ้างแล้ว

 

และในวันนี้ทางฝ่ายโจทก์ได้แถลงเอาไว้ว่าจำนำพยานมาสืบจำนวน 2 ปาก คือปากน.ส.พัชริดา หรือเจ๊พัช และปากครูปรีชา แต่ปรากฏว่าวันนี้พยานทั้งสองไม่มา และทางทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอจำหน่ายคดีออกไปชั่วคราว โดยอ้างว่าคดีนี้มีมูลเหตุเดียวกันกับคดีหลักซึ่งเป็นคดีอาญาที่ศาลยกฟ้องไปแล้ว แต่ขณะนี้ฝ่ายโจทก์กำลังเขียนอุทธรณ์คดีอยู่

 

แต่ศาลท่านได้ยกคำร้อง โดยบอกว่าคดีที่เจ๊บ้าบิ่น ฟ้องคุณลุงจรูญ ไม่ได้เกี่ยวกับคดีหลัก ศาลจึงยกคำร้องของทนายความฝ่ายโจทก์ และจะต้องนำพยานที่นัดหมายเอาไว้มาสืบพยาน แต่ว่าทางฝ่ายโจทก์แจ้งว่าครูปรีชา ติดราชการ ส่วนเจ๊บ้าบิ่น ติดธุระต้องขายลอตเตอรี่ จึงไม่สามารถที่จะเดินทางมาได้ และได้ขอส่งเป็นเอกสารคำเบิกความในคดีเก่าเอามาใช้ในคดีนี้แทน และจะขอให้ฝ่ายเรารับรอง แต่ฝ่ายเราหรือลุงจรูญไม่สามารถรับรองได้ เพราะลุงจรูญยังไม่ได้ตกเป็นจำเลย

 

ฉะนั้นถ้าเกิดว่าเขาต้องการนำสำเนาเข้าไปในสำนวน ตัวเขาต้องมารับรองสำนวนเอง แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีใครมารับรอง แต่ว่าทนายฝ่ายโจทก์ ได้ยื่นเอกสารให้กับศาลเลย ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ว่าจะมองเอกสารชุดนี้อย่างไร แต่ทั้งนี้ศาลท่านได้นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันที่ 19 พ.ย.เวลา 09.00 น.

 

 ถามว่า เดิมทนายฝ่ายโจทก์เป็นอีกท่านหนึ่ง แต่ทำไมวันนี้ถึงเป็นทนายวรยุทธ”ทนายตั้ม ตอบว่า เท่าที่ฟังดูเหมือนกับว่าครูปรีชาไม่ค่อยแฮปปี้กับทนายความชุดเดิมซึ่งก็เป็นทีมงานในสำนักงานของเขา ดังนั้นวันนี้ทนายวรยุทธ จึงต้องเดินทางมาด้วยตนเอง ส่วนถ้าหากฝ่ายโจทก์ยื่นอุทธรณ์คดีหลักเมื่อไหร่ ซึ่งพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว และหลังจากที่ลุงจรูญ ได้รับหมาย ทางเราก็จะมาเขียนแก้ โดยคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน

 

 ด้านหมวดจรูญ กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า ตอนนี้รู้สึกเป็นปกติเหมือนเดิม และอันที่จริงเรื่องนี้คนส่วนใหญ่เขาคงจะรู้กันหมดแล้วว่าเรื่องมันมีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกคนที่คอยให้กำลังใจด้วย

 

 ด้านนายอาคม คงสวัสดิ์ หนึ่งในทนายความชื่อดังที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้มาโดยตลอด แต่ไม่ค่อยจะเปิดเผยตนมากนักนัก โดยนายอาคม กล่าวว่า สิ่งที่เรารอตอนนี้ก็คือรอให้คดีมันถึงที่สุด เพื่อที่จะให้ฝ่ายโน้นปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่ผ่านมานั้นความจริงมันเป็นอย่างไร และหลังจากที่คดีถึงที่สุดแล้ว เราคงจะต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ด้วยการเตรียมฟ้องกลับทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาของรับรองว่า เราจะฟ้องอย่างแน่นอน แต่ต้องขอเวลาอีกสักนิดหนึ่ง