พม. เตรียมจัดงานวันคนพิการสากลปี 2566 ส่งเสริมความเข้าใจของสังคมต่อคนพิการ พร้อมเปิดเวทีแสดงศักยภาพ
29 พ.ย. 2566, 09:19
วันนี้ (29 พ.ย. 66) นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่องค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันที่ 3 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคนพิการสากล และได้กำหนดประเด็นหลัก คือ“รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวเพื่อพลิกฟื้นและบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกับคนพิการ เพื่อคนพิการ โดยคนพิการ”
ดังนั้นกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการร่วมกับสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ได้เตรียมจัดงานวันคนพิการสากลปี 2566 โดยมุ่งหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้ จะส่งเสริมความเข้าใจของสังคมต่อคนพิการ และให้โอกาสได้มีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมทางสังคมอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะเกิดเจตคติเชิงสร้างสรรค์ของคนพิการ ครอบครัวคนพิการ และสังคมที่มีต่อคนพิการและความพิการ ซึ่งจะส่งผลให้คนพิการได้รับโอกาสทางสังคมเท่าเทียมกับคนทั่วไป
นอกจากนี้ คนพิการจะได้รับทราบนโยบายและมาตรการ แนวทางของรัฐในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพคนพิการ และส่งเสริมความเป็นธรรม เสมอภาค เท่าเทียม ในทุกภาคส่วนของสังคม
ทั้งนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจเช่น การอ่านสารวันคนพิการสากล ประจำปี 2566 การมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่คนพิการและหน่วยงาน/องค์กรที่มีการดำเนินงานด้าน การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และการแสดงศักยภาพของคนพิการ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนพิการ รวมถึงการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และผลงานที่เป็นผลสำเร็จจากการพัฒนาศักยภาพของคนพิการ
ซึ่งงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พ.ย. – วันที่ 1 ธ.ค 66 ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
"อยากชวนให้ประชาชนคนไทยรู้สึกดีที่ได้เห็นกระทรวง พม. ให้ความสำคัญที่จะสนับสนุนคนพิการในทุกด้านอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นดึงเอาศักยภาพของคนทุกกลุ่มออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ทุกคนได้มีที่ยืนในสังคม และสามารถใช้ชีวิตในสังคมด้วยความเท่าเทียม และด้วยศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมกัน
งานวันคนพิการสากลประจำปี เป็นสิ่งที่ดีและมีความจำเป็นมาก เพราะเป็นการเตือนใจและตอกย้ำให้สังคมได้รับรู้ ว่าเราควรให้โอกาสคนพิการได้แสดงศักยภาพ และให้โอกาสเขาเป็นได้มากกว่าสิ่งที่เขาเป็นอยู่ นอกจากนั้น ยังเป็นงานที่กระทรวง พม. ได้ให้ข้อมูลแก่ผู้พิการถึงนโยบายและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในสังคมอย่างเสมอภาคกับคนทั่วไปอีกด้วย" นางรัดเกล้า กล่าว