จากกรณีที่นายสมพงษ์ โสลุน อายุ 56 ปีและนางบุญมา โสลุน อายุ 51 ปี พ่อและแม่ของนายศักดา โสลุน อายุ 32 ปี ซึ่งเสียชีวิตเนื่องจากขับรถ จยย.ไปชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อเสียชีวิตเมื่อเดือน พ.ค. 2562 ได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนลักตัดศีรษะออกไปจากซองบรรจุศพที่อยู่ภายในป่าช้าของบ้านหนองมะแซว ต.ดูน อ.กันทรารมย์ พร้อมกับศพของ นายหนูสิน   ทิพย์โพธิ์  อายุ  62 ปี  ซึ่งเสียชีวิตเพราะโดนรถไฟทับบรรจุศพอยู่ใกล้กันและถูกคนร้ายลักตัดศีรษะไปเช่นกัน   โดยคาดว่ามีคนร้ายไม่น้อยกว่า 2 คน มาลักตัดศีรษะจากศพทั้ง 2 ศพไปในครั้งนี้   ล่าสุด พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์  ผกก.สภ.กันทรารมย์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่กู้ภัย ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพโครงกระดูกซึ่งภายในหลุมศพของนายศักดา   

จากการตรวจสอบภายในโลงศพ พบเงินสดจำนวนหนึ่ง และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่องอยู่ภายในโลงศพ ซึ่งจากการตรวจสอบโครงกระดูก   ผกก.สภ.กันทรารมย์ แจ้งว่า   ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า มีส่วนใดหายไป  ซึ่งต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากโรงพยาบาลอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกรณีการตรวจสอบว่า ศีรษะกระทบกับสิ่งใดหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ศีรษะได้รับความเสียหาย  ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าศีรษะอยู่หรือหายไปแล้ว   ตามที่มีการเสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2562  ที่ป่าช้าบ้านหนองมะแซว ต.ดูน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ   นายสมพงษ์   โสลุน  อายุ 56 ปีและนางบุญมา โสลุน อายุ 51 ปี พ่อและแม่ของนายศักดา โสลุน อายุ 32 ปี พร้อมด้วยญาติพี่น้อง ได้พากันมาตรวจสอบสภาพของซองบรรจุศพของนายศักดา  ซึ่งเชื่อว่า  โดนคนร้ายลักตัดเอาศีรษะไปทำไสยาศาสตร์นั้น  ขณะนี้ ซองบรรจุศพของนายศักดา  ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดช่องที่เจ้าหน้าที่ ตร.เปิดออกตรวจสภาพภายในโลงศพเพื่อพิสูจน์ว่า มีส่วนใดของร่างกายหายไปบ้างนั้น  ได้มีการโบกปูนปิดช่องที่เปิดออกเอาไว้แล้ว  และมีการนำเอาต้นไม้มีหนามมาปกคลุมเอาไว้  โดยญาติพี่น้องต่างพากันเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นอย่างมาก

นายสมพงษ์   โสลุน  อายุ 56 ปี  พ่อของนายศักดา กล่าวว่า  ตนรู้สึกเสียใจมากที่เจ้าหน้าที่ ตร.บอกว่า  ศีรษะของลูกชายตนไม่ได้หายไป ยังอยู่และอาจจะย่อยสลายไปแล้ว  ตนกับญาติพี่น้องทุกคนยืนยันว่า ศีรษะของนายศักดา โดนลักตัดเอาไปจริง  อีกทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มาร่วมตรวจสอบภายในโลงศพก่อนหน้านี้ก็ยืนยันว่า ศีรษะของนายศักดาหายไปจริง เหลือเพียงส่วนกระดูกต้นคอเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น   เจ้าหน้าที่ ตร.บอกว่าจะต้องตรวจสอบอีกครั้ง  จะตรวจสอบอย่างไรในเมื่อตนจะปิดช่องบรรจุศพของนายศักดาแล้ว ตนขอยืนยันว่าศีรษะของนายศักดาหายไปจริง เนื่องจากว่า กะโหลกศีรษะไม่ย่อยสลายง่าย ขนาดเผาไฟอย่างแรงกะโหลกศีรษะยังเหลืออยู่ ตนเคยเผาศพญาติพี่น้องหลายคนสมองในกะโหลกศีรษะยังไม่ไหม้เลย จะยังเป็นเศษผงอยู่ กระดูกโครงหน้าก็ยังไม่เปื่อยแต่อย่างใด  ตนยืนยันว่า ศีรษะลูกชายของตนโดนลักเอาไปอย่างแน่นอน  การที่เจ้าหน้าที่ ตร.บอกว่า ศีรษะยังไม่หายไปนั้น ตนเสียใจมาก เพราะหลักฐานชัดเจนว่า ในโลงศพไม่มีกระดูกที่เป็นส่วนกะโหลกศีรษะเหลืออยู่แต่อย่างใดนั่นเอง