วันที่  15  ธันวาคม 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  มีครอบครัวยากไร้พิการทั้งครอบครัวอยู่ที่บ้านเลขที่ 310  หมู่ 6 ต.ประสาทสิทธิ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี   ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้  พระที่วัดบัวงาม  ต.ประสาทสิทธิ์  ซึ่งอยู่ใกล้บ้านต้องนำอาหารมาให้ครอบครัวนี้ได้กินเพื่อประทังชีวิต จึงเดินทางไป ที่บ้านหลังเล็กที่สร้างด้วยไม้ปลูกอยู่ริมคลอง  สภาพบ้านก็เริ่มพุพัง  ภายในบ้านพบนางสมร  วงษ์วิไล  อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านนอนป่วยเป็นอัมพฤกษ์อยู่ในบ้าน   โดยมีเพื่อนบ้านต้องมาช่วยพยุงให้ลุกขึ้นนั่ง  นอกจากนี้ยังพบเด็กหญิง น้อย  (นามสมมุติ)  อายุ 10 ปี  ซึ่งมีอาการสมาธิสั้น  นั่งอยู่ในบ้าน ส่วนสามีของนางสมร  นั้นทราบว่าชื่อนายเทิดศักดิ์  จีนโก๊ว   อายุ 55 ปี  ทางเพื่อนบ้านได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านแพ้วไปก่อนหน้านี้แล้ว  เนื่องจากมีแผลติดเชื้อที่ขาทั้งสองข้าง  ทำให้ขาบวมเดินไม่ได้  ซึ่งเพื่อนบ้านที่ช่วยนำส่งโรงพยาบาลให้ข้อมูลว่า นายเทิดศักดิ์    จะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานหลายวัน  เนื่องจากแพทย์จะต้องทำการขูดเอาเนื้อที่ตายบริเวณตั้งแต่ข้อเท้าขึ้นไปจนหัวเข่าออกทั้งสองข้าง  เนื่องจากมีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรงจนขาเน่า

    ทางด้าน  นางสมร  วงษ์วิไล  เล่าให้ฟังว่าตนกับสามีนั้นมีอาชีพขายของตามตลาดนัด  แต่ต่อมาสามีก็เกิดอาการวูบและล้มป่วยลง  เนื่องจากแพทย์ตรวจพบว่าเส้นเลือดในสมองนั้นตีบ  ทำให้แขนขาอ่อนแรง  แต่ยังพอช่วยเหลือตัวเองได้บ้างนิดหน่อย  ทำให้ภาระทุกอย่างตนเองต้องรับผิดชอบ  ทั้งการส่งลูกสาวไปโรงเรียน  ซึ่งลูกสาวนั้นก็ป่วยเป็นสมาธิสั้นมาตั้งแต่เด็ก   และไปขายของที่ตลาดนัด  แต่ต่อมาเมื่อสองเดือนก่อนตนก็มีอาการเหมือนกับสามีคือมีอาการวูบและล้มไปหมอก็บอกว่าเส้นเลือดในสมองตีบ  ทำให้ร่างกายด้านขวาขยับเองไม่ได้กล้ามเนื้ออ่อนแรง   ต้องมีคนช่วยขยับให้  ทำให้ทำอะไรไม่ได้  ซึ่งทั้งตนและสามีต้องนอนป่วยทั้งคู่  ส่วนลูกสาวนั้นก็เลยไม่ได้ให้ไปโรงเรียน  เนื่องจากไม่มีคนไปส่งและไม่มีเงินจะส่งเสีย   ซึ่งเพื่อนๆพ่อค้า แม่ค้า ที่ขายในตลาดนัดด้วยกันเมื่อทราบข่าวก็สงสารจะแวะเวียนนำอาหารรวมทั้งผ้าอ้อมสำเร็จรูปมาให้บ้าง  ส่วนเรื่องกับข้าวที่กินทุกวันนี้ก็จะมีพระที่วัดบัวงามแบ่งมาให้หลังกลับจากบิณฑบาตรแล้ว  เป็นอย่างนี้ทุกวัน  และตอนนี้สามีก็ต้องไปนอนที่โรงพยาบาลทำให้เหลือแค่เพียงตนกับลูกสาวเท่านั้น  จึงอยากวอนขอผู้ใจบุญได้ช่วยเหลือเรื่องความเป็นอยู่  โดยเฉพาะการไปรักษาอาการกล้ามเนื้อ่อนแรงที่เป็นอยู่  หากได้มีการไปทำกายภาพก็เชื่อว่าจะสามารถกลับมาช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง  ส่วนลูกสาวก็ยังเด็กอาศัยได้บ้างเป็นบางเวลา  

    ด้านนายนพรัตน์  ทะรักษา  อายุ 48 ปี  เพื่อนบ้านที่มาช่วยดูแลครอบครัวนี้ ก็บอกว่าพอรู้ว่าเพื่อนนั้นป่วยก็เข้ามาช่วยเหลือในการทำบ้านให้โปร่งเพื่อให้อากาศถ่ายเท  มาทำให้ไฟสว่างมากขึ้น  แต่หลังคาก็ยังรั่วอยู่เพราะไม่มีเงินซ่อม  ส่วนเรื่องอาหารการกินเพื่อนพ่อค้าแม่ค้าด้วยกันก็จะแวะเวียนมา  แต่ก็ไม่ใช่ทุกวันเพราะการค้าขายในยุคนี้ขายไม่ค่อยได้  ทำให้รายได้ไม่ค่อยมีก็ช่วยเหลือกันไปตามมีตามเกิด  นอกจากนี้ในทุกวันก็จะมีพระที่วัดบัวงาม  ซึ่งท่านสงสารครอบครัวนี้ก็จะให้ลูกศิษย์นำอาหารมาให้ทุกวัน  อยากให้มีหน่วยงานไหนก็ได้เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวนี้บ้าง  โดยเฉพาะเรื่องของการรักษาพยาบาลเพื่อจะได้หายป่วย

    สำหรับผู้ที่ใจบุญอยากจะช่วยเหลือครอบครัวนี้สามารถติดต่อไปที่ 065-2435745