จยย. แม่ลูก โดนเฉี่ยวล้ม-รถพ่วงเหยียบศีรษะเด็กเสียชีวิต 2 ศพ หน่วยงานเร่งให้การช่วยเหลือ-บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยมอบเงินเยียวยา
16 ต.ค. 2562, 17:04
คืบหน้ารถพ่วงเฉี่ยวและเหยียบเด็กเสียชีวิต 2 ศพ หลังผู้รับเหมาสร้างถนน สร้างคันถนนดินต่างระดับฝนตกลงมาโคลนไหลปิดขอบทางลาดยางทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่แก้ไขและเยียวยา พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้รับจ้างเป็นกรณีตัวอย่างหลังภาพสุดอนาถใจ แม่กอดศพลูกชายร้องไห้ใจแบบขาดหลังเกิดอุบัติเหตุ
วันนี้ (16 ต.ค.62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 92 ม.10 บ.โคกเวง ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของ 2 เด็กชาย วัย 9 ขวบ และ 1 ขวบเศษ ประกอบด้วย ด.ช.หาญณรงค์ โสประโคน อายุ 9 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนบ้านเกษตรอีสานสามัคคี ต.โคกตะเคียน และ ด.ช.วีรวรรณ ฮุยประโคน อายุ 1 ขวบเศษ หลังจากประสบอุบัติเหตุถูกรถพ่วงเฉี่ยวชนและเหยียบศีรษะ ด.ช.วีรวรรณ ฮุยประโคนจนเสียชีวิตคาที่ ส่วน ด.ช.หาญณรงค์ โสประโคน ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตต่อมาที่โรงพยาบาล
โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 12.30 น.ของวันที่ 13 ต.ค.62 ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่บริเวณทางหลวงหมายเลข 214 อ.กาบเชิง-ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม ชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วงที่ถนนกำลังก่อสร้างระหว่าง บ้านหมอนเจริญ กับบ้านพระจันทร์ ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ผู้ประสบอุบัติเหตุ ชื่อนางประพิมพ์พรรณ โสประโคน อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 10 ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ บาดเจ็บเล็กน้อย เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิก สีน้ำเงิน ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถล้มอยู่ริมถนน นั่งกอดศพลูกชาย คือ ด.ช.วีรวรรณ ฮุยประโคน อายุ 1 ขวบเศษ ถูกรถบรรทุกพ่วงเหยียบที่ศีรษะแหลก เสียชีวิต และห่างกันเพียงเล็กน้อย พบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บ ด.ช.ชาญณรงค์ โสประโคน อายุ 9 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนแน่นิ่ง และเด็กหญิงณิชาดา กูบกระโทก อายุ 12 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสมีเลือดไหลตามร่างกาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่พยาบาลฉุกเฉิน และอาสากู้ภัยเทศบาลตำบลกาบเชิง เร่งให้การปฐมพยาบาล และรีบนำตัว ส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกาบเชิง อย่างเร่งด่วน และได้ ส่งต่อ ด.ช.ชาญณรงค์ โสประโคน อายุ 9 ปี ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสุรินทร์ เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ห่างออกจากจุดรถจักรยานยนต์ล้มประมาณ 60 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง ยี่ห้อสแกนเนีย 18 ล้อ สีเขียว ขาว ทะเบียนตัวแม่ 70-1753 ศรีสะเกษ ลูกพ่วง ทะเบียน 70-1457 ศรีสะเกษ กระจกหน้ารถ เขียน คำว่า มหามงคลรัฐ จอดอยู่บนถนนดินข้างทางลาดยางที่กำลังก่อสร้าง มีนายเสกสิทธิ์ ธงชัย อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่109 ม.2 ต.ดอนดึง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เป็นคนขับ
ขณะที่นางประพิมพ์พรรณ โสประโคน อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 10 ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ บาดเจ็บเล็กน้อย เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ นั่งกอดศพลูกชาย ร้องไห้อย่างน่าเวทนา แทบใจขาด เพราะอีกคนเสียชีวิต อีกคนบาดเจ็บสาหัส ส่วนหลานสาวบาดเจ็บสาหัสอีกคน
สำหรับบรรยากาศบ้านที่จัดงานศพ 2 เด็กชาย พบว่าเป็นไปอย่างเศร้าสลด มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมาช่วยกันกันเตรียมทำอาหารไว้ต้อนรับแขกที่มาช่วยงานศพ ขณะที่ตัวแทนบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จาก พ.ร.บ.ของรถจักรยานยนต์ที่ประสบเหตุ มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตในเบื้องต้นรายละ 35,000 บาท ขณะที่ศพของ ด.ช.วีรวรรณ ฮุยประโคน อายุ 1 ขวบเศษ ได้มีพิธีฌาปณกิจศพไปแล้วเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 62 ที่ผ่านมา ที่วัดโคกเวงวารีรัตน์ บ.โคกเวง ต.โคกตะเคียน ส่วนศพของ ด.ช.หาญณรงค์ โสประโคน อายุ 9 ปี จะมีพิธีฌาปณกิจในวันนี้ ( 16 ต.ค. 62 )
น.ส.ประพิมพ์พรรณ โสประโคน อายุ 19 ปี และ นายสุชาติ ฮุยประโคน อายุ 29 ปี แม่และพ่อของเด็กชายวัย 1 ขวบเศษ ที่เสียชีวิต และเป็นพี่สาวของ ด.ช.วัย 9 ขวบ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ รถพ่วงขับมาพอดี และท้ายลูกพ่วงเฉี่ยวรถของตนเอง จนเสียหลักล้มและบริเวณนั้นมีโคลนเลนทำให้ลื่นด้วย ตอนเกิดเหตุตนไปรับน้องชายที่ช่องจอม และซ้อนท้ายกลับมากัน 4 คน ตนแขนหัก ถลอกนิดหน่อย อยากให้เขาขยายถนนใหญ่กว่านี้ อยากให้ผู้รับจ้างมารับผิดชอบด้วย เพราะไหล่ทางไม่มีเลย พอมีคนตาย ก็พึ่งเอารถมาโกยดินไหล่ทางออก เวลาฝนตกมีดินสไลด์ลงมาทับขอบทาง ทำให้ลื่นเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ถ้าถนนดีคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้
ขณะที่ นายปกรณ์ ศรีปานวงศ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสุรินทร์ นายศิริสักดิ์ สกุลโสรัจจะ หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุรินทร์ พร้อมด้วย ส.ต.อ.พงศ์พิสุทธิ์ ผ่องแก้ว ผบ.หมู่ (ป.) สภ.กาบเชิง ร.ต.อ.สุวัฒน์ ติระวัฒน์ศักดิ์ รอง สว.จร.สภ.กาบเชิง คณะอนุกรรมการ ศปถ.อ.กาบเชิง ศปถ.จ.สุรินทร์ และนายอภิชัย ศรอินทร์ นายช่างควบคุมโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 214 สาย อ.ปราสาท-ด่านช่องจอม ตอน บ.โคกตะเคียน-บ.ด่านพัฒนา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดอุบัติเหตุ เพื่อหามาตรการแก้ปัญหา ป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน ที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก รวมทั้งการช่วยเหลือเยียวผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต อย่างเร่งด่วน
นายปกรณ์ ศรีปานวงศ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสุรินทร์ กล่าวว่า ถนนเส้นนี้เป็นโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 214 สายปราสาท ช่องจอม ตอนที่ 2 ระยะทาง 17 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 725 ล้านบาท เริ่มต้นโครงการ 2 ก.พ.62 สิ้นสุดสัญญา 30 มิ.ย.64 ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งแน่นอนว่า ในระหว่างการก่อสร้าง ก็เกิดความไม่สะดวกปลอดภัยอยู่แล้วระดับหนึ่ง ซึ่งเราก็พยายามดำเนินการ จากการสอบถามทราบว่ารถมีการเฉี่ยวชนกัน ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากไหล่ทางที่มีความลื่นบ้าง เกิดจากความไม่เรียบร้อยจากการก่อสร้างบางส่วน ซึ่งตรงนี้ได้กำชับไปยังโครงการแล้ว ให้รีบดำเนินการปรับปรุง
นายอภิชัย ศรอินทร์ นายช่างควบคุมโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 214 สาย อ.ปราสาท-ด่านช่องจอม ตอน บ.โคกตะเคียน-บ.ด่านพัฒนา กล่าวว่า ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ส่วนแนวทางการแก้ไข จะเร่งดำเนินการแก้ไขในส่วนต่างระดับที่เกิดขึ้น หลังจากเรายกระดับคันทางขึ้น ทำให้มีน้ำท่วมขังเวลาฝนตก ระบายน้ำไม่ทันและจะเพิ่มจุดฝังท่อระบายน้ำให้มากขึ้น เพื่อเบนน้ำออกจากขอบทางด้านล่างที่น้ำขัง หลังจากนั้นทางโครงการจะเร่งยกระดับทางที่ต่ำให้สูงเสมอกับทางส่วนที่ขยาย ก็จะเร่งดำเนินการปูผิวคอนกรีตหลังจากนี้เครื่องจักรจะเข้ามาดำเนินการต่อ โครงการไม่ได้สร้างล่าช้า เร็วกว่าแผน แต่ที่ผ่านมาเข้าสู่หน้าฝน เลยต้องพักงาน และจากนี้จะเร่งดำเนินการให้เร็ว เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ทางได้สะดวกเหมือนเดิมและยิ่งขึ้น ขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนนให้มีความระมัดระวังและลดความเร็วลง เมื่อเห็นป้ายลดความเร็วและเข้าสู่พื้นที่ก่อสร้าง ความไม่สะดวกระหว่างก่อสร้างมีแน่นอน แต่เราจะบรรเทาให้น้อยลงที่สุด ส่วนการช่วยเหลือเยียวยา ต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ. และรูปแบบของกฏหมาย และเส้นทางนี้เป็นถนนใหม่ที่เป็นคอนกรีต เราจะต้องทำในคราวเดียวกัน ส่วนรถจักรยานยนต์ตนจะเกรดไหล่ทางส่วนที่แคบให้กว้างขึ้น รถจักรยานยนต์จะได้ใช้ไหล่ทาง ตามปกติได้ หรือไม่ถ้าแคบจริงๆ เราก็จะเบี่ยงรถจักรยานยนต์ให้มาวิ่งบนคันทางที่เราทำมาใหม่ ถ้าฝนไม่ตกถนนก็ไม่เละ รถวิ่งได้
ด้านนายศิริสักดิ์ สกุลโสรัจจะ หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ที่ลงพื้นที่วันนี้ เพื่อมาดูแนวทางแก้ไขปัญหาของผู้รับจ้างและทางผู้ควบคุมงานทั้งทางแขวงทางหลวงรวมถึงการเยียวยา ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บคงจะต้องดูรายละเอียดประกันภัยต่างๆ ตอนนี้ บริษัทกลางก็พร้อมที่ไปจ่ายเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 3 แสนบาท ส่วนรถพ่วงที่มาเหยียบมีประกันชั้น 1 ซึ่งจะได้ร่วมกับบริษัทกลาง ทำอย่างไรให้ญาติผู้เสียชีวิตได้รับการเยียวยาสูงสุด และเพื่อทำให้เป็นคดีตัวอย่าง ก็จะให้ทางตำรวจแจ้งข้อหากับผู้รับจ้างด้วย ว่าเคสนี้กระทำการประมาทหรือไม่ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ก็จะวางมาตรการในภาพรวมในเส้นทางนี้ที่กำลังก่อสร้างทั้งหมด ว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อ ลดอุบัติเหตุทางถนนให้ลดน้อยลงมากที่สุด การเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ก็เกิดจากสาเหตุน้ำท่วมขัง ทำให้รถจักรยานยนต์ที่สัญจรไปมาต้องหลบ ถ้าไม่หลบก็ โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุเยอะ เพราะรถที่ใช้เส้นทางนี้สัญจรมีจำนวนมาก จึงต้องฝากทางตำรวจ ทางชุมชนต้องร่วมกัน ว่าจะป้องกันและลดอุบัติเหตุคนในชุมชนอย่างไร เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากที่สุด
นางต้อย ศรีน้อย อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 /1 ม.7 บ.หมอนเจริญ ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง กล่าวว่า น้ำขังขอบถนน มีดินเลนดินโคลน พอรถวิ่งผ่านมา ก็อาจจะลื่นล้มได้ ทำให้เด็กตายไป 2 คน อยากให้มาทำถนนให้เสร็จลุล่วงเร็วๆ คนสัญจรไปมาก็ลำบาก ลูกหลานไปโรงเรียน อันตราย มาทำค้างไว้แบบนี้หลายเดือนแล้ว ฝนตกลงมาก็ลื่น รถใหญ่วิ่งก็ไม่ค่อยชะลอด้วย