เมื่อวันที่ 15ธค.2566 ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหมู่ 1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และชาวบ้านพื้นที่ใกล้เคียงจำนวนมาก ว่าได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการสัญจรไปมาผ่านถนนสายด้านหลังวัดท่าแพ - โรงเรียนปากพูน ซึ่งมีกำลังมีการก่อสร้างถนนใหม่รวมระยะทาง 1 กม.เศษ เนื่องจากถนนที่กำลังก่อสร้างใหม่ มีสภาพเป็นดินโคลนดินลูกรังเละเทะตลอดเส้นทาง ทำให้ประชาชนและเด็กนักเรียน พ่อค้าแม่ค้า ที่สัญจรถนนเส้นทางบริเวณดังกล่าว ได้รับความเดือดร้อนสัญจรไปมาด้วยความยากลำบากมาเป็นเวลานานกว่า 3 เดือนแล้ว แต่ทางผู้รับเหมาและหน่วยงานที่รับผิดชอบก่อสร้างถนนสายนี้ยังไม่สามารถแก้ไขหรือเร่งรัดให้ก่อสร้างถนนให้แล้วเสร็จ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนมาตลอด ผู้ป่วยก็เดินทางไปโรงพยาบาลด้วยความยากลำบาก

ล่าสุดเหตุเกิดเมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) หลังเลิกเรียนได้มีผู้ปกครองหญิงคนหนึ่งขี่รถจยย.พาลูกชายกลับจากโรงเรียนเพื่อจะกลับเข้าบ้านพักที่อยู่บริเวณถนนที่กำลังก่อสร้างได้เกิดอุบัติเหตุรถจยย.ที่ขับลุยโคลนดินลูกรังล้มลงทำให้ทั้งผู้ปกครองและเด็กนร.ชายล้มลงบนกองโคลนทำให้เนื้อตัวเปียกและเปื้อนโคลนดินลูกรังไปหมด จนทางผู้ปกครองคนดังกล่าวสุดทนได้โพสต์ภาพลงโซเซียลเพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบลงมาแก้ไขโดยด่วนด้วยเพราะชาวบ้านเดือดร้อนหนักทนไม่ไหวจริงๆแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบถนนสายดังกล่าวพบว่า ถนนสายดังกล่าวมีสภาพเป็นดินโคลนสีแดง รถที่ผ่านสัญจรไปมาด้วยความยากลำบากอย่างทุลักทุเลตลอดเส้นทางทำให้รถและเสื้อผ้าชาวบ้านเปื้อนดินโคลน ต้องแวะล้างน้ำรถและล้างตัวที่ร้านค้าริมถนนใกล้สถานที่ก่อสร้างถนน

น.ส.กิ้ง อายุ 33 ปี แม่ของเด็ก นร.ชาย ที่ประสบอุบัติเหตุรถล้มลงบนกองโคลนถนนสายดังกล่าวเผยว่า อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบคือเทศบาลเมืองปากพูน เร่งแก้ไขและเร่งสร้างถนนสายนี้ให้เสร็จเสียทีเพราะชาวบ้านเดือดร้อนหนักมานาน3เดือนแล้ว และนส.ขวัญใจ  สินประเสริฐ อายุ 37ปี เล่าว่าเดือดร้อนหนักมากจริงๆขอให้ผู้รับเหมาและหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งแก้ไขและสร้างถนนสายนี้ให้เสร็จเสียที วันก่อนแม่ตนป่วยต้องไปหาหมอตามนัดต้องเดินลุยโคลนระยะทางหลายเมตรออกมาหาหมอ จนต้องย้ายบ้านไปอยู่บ้านญาติเพื่อความสะดวกในการไปหาหมอ ส่วนตนหลังจากสร้างถนนสายนี้ทำให้เกิดความเครียดหนักขึ้นกว่าเดิมและเป็นโรคประจำตัวอยู่ด้วย ทำให้ต้องกินยาคลายเครียดตลอดเวลา กว่าถนนสายนี้จะเสร็จไม่รู้ว่าตนจะเครียดมากขนาดไหน ขอให้เทศบาลเมืองปากพูนเร่งทำถนนให้เสร็จโดยเร็วด้วย 

นางอุบล รอดเจริญ อายุ 76 ปี เผยว่า ตนมีอาชีพค้าขายเล็กๆน้อยๆต้องออกมาซื้อของเข้าร้านทุกวันตั้งแต่สร้างถนนสายนี้ทำให้ยอดขายตกไปมากเพราะไม่สามรารถออกมาซื้อของเข้าร้านได้เหมือนก่อน อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งสร้างถนนให้เสร็จโดยเร็ว
ส่วนนายอธิธัช กลิ่นเมือง อายุ 27 ปี เจ้าของร้านค้าของชำ กล่าวว่า ตนเห็นประชาชนในหมู่บ้านเดือดร้อนมานานแล้วจึงต่อสายแป๊ปประปาเปิดให้ประชาชนที่รถเปื้อนดินโคลนจากการวิ่งผ่านถนนสายดังกล่าวได้ล้างรถฟรีตลอดทั้งวันๆละเกือบ100คันฟรีทุกคันไม่คิดค่าบริการ เพราะสงสารชาวบ้านจริงๆ

ด้านนายธนาวุฒิ  ถาวรพราหมณ์ นายกเทศมนตรีเมืองปากพูน ซึ่งติดภารกิจเดินทางไปประชุมที่จ.เชียงใหม่ ได้ชี้แจงว่า ถนนสายนี้ใช้งบก่อสร้างประมาณ9ล้านกว่าบาทระยะทางกว่า1กม.เพื่อยกระดับถนนทำถนนใหม่เป็นถนนลาดยางแอสฟัลติคส์ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนสายนี้อย่างถาวรต่อไป

สาเหตุที่ก่อสร้างถนนสายนี้ล่าช้าเพราะติดปัญหาการขยายเขตทางของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งทางเราต้องทำเรื่องให้ไฟฟ้าขยายเขต ทำให้มันเสียเวลาอยู่ประมาณ2-3เดือนแระ โดยจะมีการย้ายเสาเมนต์ทั้งหมดเลยเลยทำให้ล่าช้า  และสัญญาการรับเหมาก่อสร้างถนนสายนี้ก็หมดแล้วตามระยะที่กำหนดไว้120วัน ซึ่งเทศบาลก็ดำเนินการปรับบริษัทผู้รับเหมาตามสัญญาไปแล้ว อยู่ระหว่างเร่งรัดให้ผู้รับเหมาเร่งรัดก็สร้างถนนให้เสร็จโดยเร็วแล้ว แต่มาติดปัญหาเรื่องฝนตกหนักทุกวันในช่วงนี้และดินที่ถมถนนก็อยู่ในชั้นดินลูกรังพอดีเลยทำให้สภาพถนนเละดังกล่าวทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ซึ่งทางเทศบาลเมืองปากพูนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้สั่งให้บริษัทผู้รับเหมาใช้รถแบ็คโฮมาไถ่เกลี่ยวถนนให้สภาพถนนดีขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนและจะเร่งรัดให้ทาง กฟภ.เร่งขยายเขตเสาไฟฟ้าให้เสร็จโดยเร็วเพื่อที่ผู้รับเหมาจะเร่งรัดทำถนนสายนี้ให้เสร็จโดยเร็วต่อไป

ขณะที่นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผวจ.นครศรีธรรมราช หลังจากทราบเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านเกี่ยวกับการใช้ถนนสายนี้ได้รีบสั่งการให้นายสุเทพ แก้วประดิษฐ์ นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราชลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าชาวบ้านเดือดร้อนจริงจึงประสานไปยังนายธนาวุฒิ ถาวรพราหมณ์ นายกเทศมนตรีเมืองปากพูน เร่งกำชับผู้รับเหมาทำถนนสายนี้ให้เสร็จโดยเร็วและแก้ปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าให้ชาวบ้านในเบื้องต้นไปก่อนจนกว่าการก่อสร้างถนนสายนี้จะเสร็จสิ้น