สคร.11 เตือนระวัง “โรคฉี่หนู” เผย ปีนี้เสียชีวิตแล้ว 11 ราย
20 ธ.ค. 2566, 16:06

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช เผย ปีนี้พบผู้ป่วยเสียชีวิต ด้วยโรคเลปโตสไปโรซิส หรือโรคฉี่หนูแล้ว 11 ราย ย้ำเลี่ยงเดินลุยน้ำ ย่ำโคลน พื้นที่ชื้นแฉะด้วยเท้าเปล่า แนะสวมรองเท้าบูทป้องกัน หากมีไข้เฉียบพลัน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณน่อง โคนขา อย่าซื้อยากินเอง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
นายแพทย์ไกรสร โตทับเที่ยง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช เผยว่า สถานการณ์โรคเลปโตสไปโรซิส หรือโรคฉี่หนู ในเขตสุขภาพที่ 11 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 9 ธันวาคม 2566 พบผู้ป่วยจำนวนทั้งสิ้น 865 ราย เสียชีวิต 11 ราย ผู้เสียชีวิตอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช 8 ราย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 2 ราย และจังหวัดกระบี่ จำนวน 1 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือกลุ่มอายุ 35 - 44 ปี รองลงมาคือกลุ่ม 65 ปีขึ้นไป อาชีพที่มีจำนวนผู้ป่วยสูงสุด คือ เกษตรกร รองลงมา คือ รับจ้าง จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุดคือ จังหวัดระนอง รองลงมาคือนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พังงา ชุมพร ภูเก็ต และกระบี่ โดยปัจจัยเสี่ยงส่วนใหญ่ที่พบ คือ อาชีพเสี่ยง มีบาดแผลและมีประวัติลุยน้ำ และไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน
โรคเลปโตสไปโรสิส (Leptospirosis) หรือโรคไข้ฉี่หนู เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย “เลปโตสไปร่า” Leptospira ซึ่งพบอยู่ในปัสสาวะของหนูรวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ เช่น สุนัข แมว วัว แพะ มักจะปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำขัง พื้นดินที่เปียกชื้น โดยเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล รอยขีดข่วน รอยถลอกตามผิวหนัง เยื่อบุตา จมูก ปาก หรือการไชเข้าทางผิวหนัง นอกจากนี้ ยังอาจติดต่อได้จากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค หลังจากติดเชื้อประมาณ 1 - 2 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะเริ่มมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว ปวดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะที่น่องหรือโคนขา ต่อมาอาจมีตาแดง ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะออกน้อย ไอเป็นเลือด จนเสียชีวิตในที่สุด อาการระยะแรกจะคล้ายโรคติดเชื้ออื่นๆ หากผู้ป่วยซื้อยามารับประทานเองหรือเข้ารับการรักษาล่าช้า ก็อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนและเสียชีวิตได้
นายแพทย์ไกรสร ย้ำวิธีการป้องกันตนเองจากโรคฉี่หนู คือ 1) หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หากจำเป็นให้สวมรองเท้าบูทหรือถุงพลาสติกหุ้มเท้า หมั่นล้างมือล้างเท้าด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ และอาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังจากเสร็จจากการทำงานหรือลุยน้ำ 2) กินอาหารสุกใหม่ เก็บอาหารให้มิดชิด หลีกเลี่ยงการกินอาหารค้างคืนโดยไม่มีภาชนะปิด 3) หมั่นทำความสะอาดบ้านเรือนและสิ่งแวดล้อมบริเวณบ้านให้สะอาดไม่มีหนูชุกชุม 4) หากมีอาการไข้สูงให้รีบไปพบแพทย์ทันที จะช่วยป้องกันการเสียชีวิตได้ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422