วันนี้ ( 24 ธ.ค.66 ) นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวหลังการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่ ณ ห้างสรรพสินค้า ท็อปส์ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว และห้างสรรพสินค้า โลตัส สาขาลาดพร้าว โดยมี ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักงานเขตจตุจักร เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาล (สน.) พหลโยธิน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และสมาพันธ์ชมรมคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมลงพื้นที่ โดยกล่าวว่า จากการลงตรวจสอบทั้ง 2 ห้างสรรพสินค้า พบว่ามีการติดแสดงฉลากสินค้า ที่มีรายละเอียดด้านต่าง ๆ ตามที่กฏหมายกำหนดอย่างชัดเจน และได้เน้นย้ำกับผู้นำเข้าสินค้ามาจำหน่ายว่าต้องมีการจัดทำฉลากภาษาไทยกำกับบนสินค้าด้วย ให้ปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการส่งความสุขอย่างแท้จริงในช่วงเทศกาลปีใหม่ และให้ปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการส่งความสุขอย่างแท้จริงในช่วงเทศกาลปีใหม่

ขณะที่แพทย์หญิง วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าหลังจากนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่ศูนย์ตรวจตามร้านค้าต่างๆทั้ง 50 เขตทั่วกรุงเทพมหานคร / แต่ยอมรับว่าการตรวจร้านค้าเล็ก ๆ นั้นค่อนข้างลำบาก ดังจึงอยากขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ค้าขายอย่างซื่อสัตย์ เพื่อคนรับของจะได้ดีใจ ที่ได้รับของขวัญที่มีคุณภาพ

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากตรวจสอบชุดของขวัญแล้วพบสินค้าชำรุด หรือหมดอายุ สามารถนำมาเปลี่ยนได้ที่ห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายไม่เกินวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 หรือ หากสงสัยว่าถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ หรือพบว่ากระเช้าของขวัญปีใหม่ ไม่มีการจัดทำฉลาก สามารถแจ้งเบาะแสไปยัง สคบ. ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สายด่วน สคบ. 1166 หรือแอปพลิเคชัน OCPB Connect หรือในเว็บไซต์ www.ocpb.go.th โดยหาพบการกระทำความผิดจริง ผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทกระเช้าของขวัญปีใหม่ที่แสดงฉลากสินค้าไม่ถูกต้อง ผู้ขาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นการกระทำของผู้ผลิตเพื่อขาย หรือสั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ