เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



อช.กุยบุรีสืบจากกล้องดักถ่ายสัตว์ป่า กดดันหนุ่มลักลอบล่าสัตว์ป่า จนยอมมอบตัว


24 ธ.ค. 2566, 16:28



อช.กุยบุรีสืบจากกล้องดักถ่ายสัตว์ป่า กดดันหนุ่มลักลอบล่าสัตว์ป่า จนยอมมอบตัว




นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก กล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้บันทึกภาพ บุคคลชายนำพาอาวุธเข้าไปในเขตอุทยานฯ จนท. จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบชื่อ ที่อยู่ และประสานผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เพื่อยืนยันตัวตนชายคนดังกล่าว 

ต่อมา จนท.อช.กุยบุรี ได้เข้าพื้นที่เกิดเหตุเพื่อเก็บพยานหลักฐาน พร้อมเปรียบเทียบสถานที่จริงกับภาพถ่ายว่าเป็นพื้นที่เดียวกัน เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว จึงได้รวบรวมเรื่องราวทั้งหมด แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านยางชุม จ.ประจวบคีรีขันธ์
วันที่ 23 ธ.ค.66 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านยางชุม ว่า มีผู้ต้องหาได้มามอบตัวพร้อมด้วยอาวุธปืนที่สภ.บ้านยางชุม โดยทางสภ.บ้านยางชุม ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด ตามที่ อช.กุยบุรี กล่าวหา ให้นายอนุชิต (สงวนนามสกุล) ทราบ ซึ่ง นายอนุชิต สารภาพทุกข้อกล่าวหา 

 



1. ฐาน “เข้าไปดำเนินกิจการใดๆเพื่อหาผลประโยชน์ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (6) และมาตรา 44

2. ฐาน “นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆเข้าไปภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19 (7) และมาตรา 45 และจากพฤติการณ์ของนายอนุชิต  เวลาและสถานที่เกิดเหตุ ที่ปรากฏในหลักฐานภาพถ่ายพบว่า ทิศทางของเส้นทางการเดินของนายอนุชิต ในภาพนิ่งหันหน้าเข้าหากล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า กำลังมุ่งหน้าเดินออกจากป่าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ในวันที่ 22 ธันวาคม 2566 เวลา 09.13 น. โดยประมาณ แสดงว่านายอนุชิต ได้พาอาวุธปืนยาวเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อล่าสัตว์ก่อนหน้าที่กล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าจะบันทึกภาพได้ ซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่เล็งเห็นผลของการกระทำที่ได้นำพาอาวุธปืนเข้าไปในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี คณะพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่า นายอนุชิต มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าครอบครองอาวุธปืนไว้เพื่อพยายามเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติซึ่งมีความผิด

3. ฐาน “ล่า หรือพยายามล่า สัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 12 และมาตรา 89

4. ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใด  ทำ ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่”ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7 และมาตรา 72

ทั้งนี้ไดด้มีการนัดหมายเจ้าหน้าที่อุทยานฯเพื่อสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในวันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2566 เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป



คำที่เกี่ยวข้อง : #onbnews  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.