"สมศักดิ์" อนุมัติกองทุนเงินช่วยเหลือเยียวยาเหตุน้ำท่วมนราธิวาส
30 ธ.ค. 2566, 15:33
วันนี้ ( 30 ธ.ค.66 ) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาอนุมัติการเยียวยาเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสแล้ว หลังจากจังหวัดนราธิวาส ได้มีหนังสือแจ้งมายังกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยว่า ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 13 อำเภอ 75 ตำบล 523 หมู่บ้าน 62,613 ครัวเรือน จึงขอสนับสนุนถุงยังชีพ จำนวน 53,810 ชุด
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ กองทุนเงินช่วยเหลือฯ จึงเห็นสมควรอนุมัติให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยในจังหวัดนราธิวาส โดยในเบื้องต้นให้จัดหาถุงยังชีพ จำนวน 53,810 ชุด ในราคาชุดละ 700 บาท เป็นจำนวนเงิน 37,667,000 บาท ซึ่งเพื่อความรวดเร็ว สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะโอนเงินให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เพื่อดำเนินการจัดถุงยังชีพเป็นการเร่งด่วนต่อไป
“ผมในฐานะประธานกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ได้อนุมัติเงินกองทุน เพื่อให้ความช่วยเหลือกรณีเร่งด่วน แทนคณะกรรมการฯ เพราะผมเข้าใจถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี รวมถึงรัฐบาลภายใต้การนำของท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาเป็นอย่างมาก จึงรีบดำเนินการให้ทันที หลังจากจังหวัดส่งความต้องการมา ดังนั้น หากจังหวัดใดที่ได้รับผลกระทบ ก็ขอให้รีบส่งหนังสือขอรับการสนับสนุน เพื่อจะได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทัน เพราะน้ำท่วมภาคใต้ มาเร็ว แต่ก็จะแห้งเร็ว ทำให้ภาครัฐ ต้องเร่งช่วยเหลือ เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์กลับเข้าสู่ปกติ ผมก็ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหาย ทั้ง ผู้เสียชีวิต บ้านเรือนของประชาชน เพื่อจะได้ช่วยเหลือเยียวยาต่อไป” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับหลักเกณฑ์การช่วยเหลือ ของกองทุนเงินช่วยเหลือฯ ในกรณีเสียชีวิต จะได้รับค่าจัดการศพ รายละ 50,000 บาท พร้อมเงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตอีก 30,000 บาท รวมเป็น 80,000 บาท ส่วนกรณีบ้านเรือนเสียหาย จะได้รับเงินเยียวยา แบ่งเป็น เสียหายน้อย (เสียหายน้อยกว่า 30% ) ไม่เกินหลังละ 15,000 บาท เสียหายมาก (เสียหาย 30-70%) ไม่เกินหลังละ 70,000 บาท และเสียหายทั้งหลัง (เสียหายเกิน 70%) ไม่เกินหลังละ 220,000-230,000 บาท