ชาวบ้านข้องใจ! โผล่อีกพื้นที่ปราณบุรีกลุ่มชายแต่งกายคล้ายตำรวจ "อ้างชุดปะฉะดะ" จอดรถซุ่มในที่มืดเรียกตรวจค้นรถชาวบ้านโดยไม่มีสัญญาณไฟ
2 ม.ค. 2567, 12:07
วันที่ 2 มกราคม 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบกลุ่มชายฉกรรจ์ 4-5 คน แต่งตัวเลียนแบบคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมรถตราโล่จอดแอบซุ่มอยู่ในที่มืด บริเวณถนนเลียบคลองชลประทานปราณบุรี ตำบลหนองตาแต้ม อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยที่ไม่ได้มีการตั้งกรวยยาง ไม่เปิดสัญญาณไฟวับวาบ และไฟแสงสว่างให้เห็นเด่นชัดแล้วเรียกขอตรวจค้นรถจักรยานยนต์ รถยนต์ และเป่าแอลกอฮอล์ รถของชาวบ้านที่วิ่งสัญจรผ่านไปมา โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ชุด ปะ ฉะ ดะ เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.48 นาที กลางดึกของคืนวัน 1 ม.ค.67 ที่ผ่านมา
โดยชาวบ้านในพื้นที่ตั้งข้อสงสัยว่ามาตั้งด่านลอยแบบนี้ได้ด้วยหรือไม่ แถมดับไฟแอบซุ่มในที่มืดแล้วขอตรวจค้น และ ที่ผ่านมาพบเห็นการกระทำในลักษณะเช่นนี้ในพื้นที่อำเภอปราณบุรีอยู่บ่อยครั้ง จึงไม่มั่นใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ หรือเป็นกลุ่มคนที่แต่งกายเลียนแบบคล้ายตำรวจมาก่อเหตุกับชาวบ้าน เหมือนที่เคยเห็นตามข่าวอยู่บ่อยครั้ง
พ.ต.อ.ไพฑูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจชุด"ปะ ฉะ ดะ" ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เวลาเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจะต้องแต่งกายเครื่องแบบตำรวจเต็มยศให้เรียบร้อย และขณะเวลาออกตรวจจะต้องเปิดสัญญาณไฟวับวาบให้ชาวบ้านเห็นเด่นชัด แล้วลาดตระเวนไปตามจุดเสี่ยง หรือจุดที่ชาวบ้านร้องขอมาว่าเสี่ยงจะเกิดเหตุอาชญากรรมขึ้นได้ รวมถึงจุดที่มีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความปลอดภัยและความอบอุ่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในการดำเนินชีวิต
โดยขณะลาดตระเวนสามารถเรียกตรวจค้นรถจักรยานยนต์และรถยนต์ได้ โดยเน้นตรวจค้นเกี่ยวกับอาวุธและยาเสพติดเป็นหลักตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ส่วนการพบเห็นผู้ขับขี่ที่มีอาการมึนเมา ก็สามารถเรียกขอเป่าวัดแอลกอฮอล์ได้ เนื่องจากเป็นเหตุซึ่งหน้า แต่จะต้องเรียกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาดำเนินการเป่าแอลกอฮอล์ หรือ นำตัวไปเป่าวัดแอลกอฮอล์ที่โรงพัก ซึ่งเจ้าหน้าที่สายตรวจไม่สามารถทำได้เอง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด"ปะ-ฉะ-ดะ ไม่สามารถจอดรถแอบซุ่มในมุมมืดแล้วเรียกขอตรวจค้นได้ รวมไปถึงไม่สามารถเรียกเงินค่าปรับจากผู้กระทำผิดได้ หากตำรวจคนใดที่กระทำผิดในลักษณะเช่นนี้ ก็จะต้องรับผิดชอบผลในการกระทำของตัวเอง พ.ต.อ.ไพฑูล กล่าว