นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ประกอบด้วย 2 มาตรการ คือ

1.การปรับปรุงโครงสร้างและอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าสุราแช่พื้นบ้านเพื่อให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมการแข่งขันกับประเทศต่างๆ นอกจากนี้ยังปรับปรุงภาษีสถานบริการ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิดกลับมาฟื้นตัว รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว

2. การปรับปรุงหลักเกณฑ์การตรวจสินค้าเพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของนักท่องเที่ยว (VAT Refundfor Tourists) เพื่อลดปริมาณนักท่องเที่ยวที่ต้องเข้าคิวเพื่อแสดงสินค้าในกระบวนการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566

 

คาดว่ามาตรการเหล่านี้จะส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตและภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นสุทธิประมาณ 401 ล้านบาทต่อปีและ GDP ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.0073 เทียบกับกรณีไม่มีมาตรการ นอกจากนี้ ภาครัฐยังจะสามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้นิติบุคคลได้มากขึ้นตามการจับจ่ายใช้สอยและรายได้ของผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ส่งผลให้มีการลงทุนขยายกิจการและการจ้างงานเพิ่มขึ้นต่อไป และจะส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีขึ้น