วันนี้ ( 17 ต.ค.62 ) นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้นำคณะนักพฤกศาสตร์ ที่เดินทางมาจาก 12 ประเทศ เพื่อเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการปรงนานาชาติ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 19 ต.ค. ได้แก่ ตัวแทนจากประเทศไทย สิงคโปร์ อินเดีย สหรัฐอเมริกา แอฟริกาใต้ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย โปรตุเกส เนเธอแลนด์ สวีเดน สหราชอาณาจักร และสเปน เดินทางเข้าศึกษาและชมพันธุ์ปาล์มที่สวนนงนุชพัทยา พบว่าพันธุ์ปาล์มที่สวนนงนุชพัทยานำมาเก็บรักษาและเพาะพันธุ์ไว้มีเกือบทุกสายพันธุ์ทั่วโลก ขาดเพียงไม่กี่สายพันธุ์เท่านั้น พร้อมยกย่องสวนนงนุชพัทยาว่าเป็นสวนพันธุ์ปรงที่มีพันธุ์ปรงมากที่สุดในโลก 

โดยจากการสำรวจพบว่าภายในสวนนงนุชพัทยามีปรงสายพันธุ์จากทวีปแอฟริกาชื่อ Encephalartos  brevifolilatus ที่เหลืออยู่ในโลกไม่ถึง 20 ต้น และ 1 ใน 20 ต้นนั้นอยู่ภายในสวนนงนุชพัทยา มีมูลค่าถึงต้นละ 80,000 เหรียญยูเอส หรือคิดเป็นเงินไทย 2,428,800 บาท

ด้านนายกัมพล ตันสัจจา กล่าวว่า ปรงต้นนี้เก็บมานานแล้วจากการสะสมต้นปรง โดยตนเองได้ทำงานเรื่องต้นปรงมากว่า 35 ปีแล้ว ค่อยๆ เก็บ ค่อยๆทำ จนได้มีสวนปรงขนาดใหญ่ขนาดนี้ สำหรับคนที่มาเที่ยวชมในงานนี้ต่างชื่มชม ตื่นเต้นไม่คิดว่าเขาจะเห็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ภายในในสวนนงนุชพัทยาประเทศไทยของเรา ขณะนี้ทางสวนนงนุชพัทยาได้นำต้นปรงมาปลูกไว้ภายในสวนอย่างเต็มที่แล้ว พร้อมนำต้นปรงที่หายากและมีราคาแพงออกแสดงโชว์ให้กับประชาชนได้ชมกัน เพื่อช่วยกันอนุรักษ์และป้องกันไม่ให้ต้นปรงเหล่านี้สูญพันธ์ไปอีกด้วย ส่วนปรงต้นนี้ได้นำมาจากทวีปแอฟริกา และนำมาเพาะพันธุ์ไว้ตั้งแต่หน่อเล็กๆ จนถึงขณะนี้ในประเทศไทยมีเพียงต้นเดียวที่สวนนงนุชพัทยาแห่งนี้ ในโลกมีเหลืออยู่เพียง 20 ต้น 

ซึ่งภายในสวนนงนุชพัทยานับเป็น 1 ใน 20 ต้นของสวนโลกที่มีปรงชนิดนี้อยู่  โดยราคาในตลาดปรง มีราคาต้นละ 80,000 เหรียญยูเอส หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2 ล้านกว่าบาท เคยมีคนมาขอซื้อแต่ไม่เคยมีแนวคิดที่จะขาย เพราะถือว่าปรงต้นนี้เป็นสมบัติของประเทศไทยเราเลยก็ว่าได้ เรามี 1 ใน 20 ต้น ที่มีอยู่ในโลกและเป็นสถานที่ที่เรานำต้นปรงมาเพาะเลี้ยงไว้มากที่สุดในโลกและเป็นชื่อเสียงของประเทศไทยเราอีกด้วย