เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



คืบหน้า ! "สัตวแพทย์หญิง" ซดไซยาไนด์พร้อมลูกสาว คาดเกิดจากป่วยซึมเศร้า ไม่พบปัญหาการเงิน


3 ม.ค. 2567, 14:44



คืบหน้า ! "สัตวแพทย์หญิง" ซดไซยาไนด์พร้อมลูกสาว คาดเกิดจากป่วยซึมเศร้า ไม่พบปัญหาการเงิน




จากกรณีที่พบศพสัตวแพทย์หญิง อายุ 41 ปี และลูกสาว อายุ 12 ปี ในบ้านพักพร้อมกับเจอขวดไซยาไนด์ ซึ่งผู้เสียชีวิตได้เขียนจดหมายสั่งเสียให้เผาทันที โดยระบุให้ใส่โลงเดียวกัน พร้อมกับวางเงินสดไว้ 1 แสนบาท

เบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุมาจาก เครียดปัญหาชีวิต ล่าสุดสามีผู้เสียชีวิตเผยแยกทางกัน ยืนยันไม่มีปัญหาหนี้สิน แต่เมื่อ 3 ปี ก่อนภรรยาเครียดเรื่องแม่ป่วยติดเตียงทำให้เป็นโรคซึมเศร้า ประกอบกับช่วงนั้นภรรยาไปนับถือลัทธิโยเร ไม่รู้ว่ารู้จักได้อย่างไร

ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 มกราคม 66 พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้กล่าวถึงกรณี สัตวแพทย์หญิง ฆ่าตัวตายพร้อมลูกสาว จากการตรวจสอบและสอบสวนสามีผู้เสียชีวิต ทราบว่ายังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แต่อยู่กันคนละห้องมานาน5ปี ช่วงเกิดเหตุสามีเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด โดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุขึ้น


 



สำหรับผู้เสียชีวิตมีอาการป่วยซึมเศร้ามานานแล้ว ซึ่งไม่มีปัญหาการเงิน สาเหตุการก่อเหตุอาจเกิดจากอาการป่วยที่เป็นอยู่ ก่อนหน้านี้มารดาที่ป่วยติดเตียงเพิ่งมาเสียชีวิตลง ผู้ตายเสียใจเป็นอย่างมาก จึงน่าจะเป็นสาเหตุหลักสำคัญ ประกอบกับช่วงปีใหม่สามีก็ไปทำงานต่างจังหวัดจึงทำให้เกิดความเสียใจเพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องลัทธิโยเร อาจจะเป็นเพียงการนับถือของผู้เสียชีวิต แต่ไม่น่าจะเกี่ยวกับการตัดสินใจปลิดชีพ


พ.ต.อ.อาทิตย์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบ ที่มาของไซยาไนด์ พบว่าเป็นลอตเดียวบริษัทเดียวกับ“แอมไซยาไนด์” ฆาตกรต่อเนื่อง ที่ก่อเหตุฆาตกรรมโดยการใช้สารไซยาไนด์กับเหยื่อ โดยสัตวแพทย์หญิงที่เสียชีวิตได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกเข้าสอบสวนด้วย แต่เนื่องจากเป็นสัตวแพทย์จึงไม่มีความผิด เพราะมีส่วนจำเป็นในการใช้ในงานรักษาสัตว์ จากการตรวจสอบในจุดเกิดเหตุและสภาพศพทั้งสองศพ สรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตายด้วยตนเอง ซึ่งทางครอบครัวก็ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต

สำหรับศพของผู้เสียชีวิตทั้งสองอยู่ที่โรงพยาบาลระยอง โดยญาติไม่ยินยอมให้ทำข่าวหรือเผยแพร่ในช่องทางใดทั้งสิ้น


คำที่เกี่ยวข้อง : #สัตวแพทย์หญิง   #ซดไซยาไนด์  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.