วันนี้ (3 ม.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงาน น.ส.ชไมพร วิลาจันทร์ อายุ 37 ปี ชาวบ้านท่าขี้เหล็ก หมู่ 12 ต.นาคำ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พร้อมชาวบ้านได้ออกตามหาและไล่จับนายประสิทธิ์  ศรีจำปา อายุ 27 ปี หรือ “เบน์ซ์” สิงห์ยาประจำหมู่บ้าน ขโมยรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน ขณะที่น.ส.ชไมพร เจ้าของรถจอดเอาไว้ภายในบ้านเลขที่ 58 หมู่ 12  บ้านดอนขี้เหล็ก โดยวงจรปิดจับภาพขณะที่นายเบ๊นซ์เดินเข้าไปในบ้าน เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ นายเบ๊นซ์เปิดประตูรั้วเข้าไปลับๆ ล่อๆ ชำเลืองหาเจ้าของบ้าน เมื่อไม่เห็นคน พอลับตาคนก็เปิดประตูแล้วจูงรถจักรยายนต์ออกไปจากบ้านแล้วสตาร์ทหนีไปทันที จากนั้นก็ขับรถหนี แถมยังไปขโมยข้าวเปลือกชาวบ้านไม่รู้ไปเอามาจากไหน เอาไปขายที่ลานข้าวเปลือกแห่งหนึ่งที่บ้านผึ้ง ต.นาไหม อ.บ้านดุง ห่างจากบ้านดอนขี้เหล็กประมาณ 15 กม. เจ้าของรถจยย.ที่หาย เมื่อรู้ว่ารถหายได้ไปแจ้งความที่สภ.บ้านดุงและชวนชาวบ้านออกตามหาทั่วอำเภอตั้งแต่เช้าเกือบเที่ยงยังไม่เจอ จนสุดท้ายไปเจอขณะที่นายเบ๊นซ์กำลังเอาข้าวเปลือกจำนวน 3 กระสอบไปขายที่ลานข้าวแห่งหนึ่งที่บ้านผึ้ง ต.นาไหม อ.บ้านดุง จึงได้ช่วยกันจับกุมนายเบ๊นซ์ส่งตร.สภ.บ้านดุง ทันที โดยนายเบ๊นซ์เมื่อเห็นชาวบ้านและเจ้าของรถออกตามหาจนเจอ มีอาการหน้าซีด อ้างว่า เพื่อนบอกให้เอาข้าวมาขาย ส่วนรถไม่ได้ขโมยมา ยืมมาแค่นั้นเดี๋ยวก็จะเอาไปส่งแล้วครับ ขณะที่เจ้าของรถไม่ยอม นายเบ๊นซ์มีท่าทีตกใจ บอกว่า อย่าเอาตัวผมส่งตร.เลย ผมขายข้าวได้จะแบ่งให้คนละ 200 แล้วกัน เจ้าของบรถยืนยัน ต้องเอาตัวไปให้ตร.ดำเนินคดีจึงนำตัวนายเบ๊นซ์ขึ้นรถพามาส่งตร.สภ.บ้านดุงทันที

พอนำตัวนายเบ๊นซ์ถึงสภ.บ้านดุง พ.ต.อ.พงศ์พันธุ์ นาขวา ผกก.สภ.บ้านดุง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ธนนท์ ศรีกงพาน สว.สส.สภ.บ้านดุง ตรวจหาสารเสพติด พบว่าเป็นฉี่ม่วง ดำเนินคดีในข้อหา “เสพยาเสพติด” และจะได้ตั้งข้อหา ขโมยรถจักรยานยนต์,ขโมยข้าวเปลือกต่อไป หากปล่อยตัวจะเป็นภัยสังคมกับชาวบ้านอีก

นายเบ๊นซ์ ซึ่งยังมีอาการยาดีดอยู่คาดว่าคงเสพยามาไม่นาน บอกว่า ผมไม่ได้ขโมยรถ ผมแค่ยืมรถน้าพรออกมาเฉยๆ บางครั้งก็บอกว่าน้าพรให้เอารถไปส่งให้ที่นา  ส่วนข้าวเปลือกเป็นของเพื่อนให้เอามาขายให้  ขณะที่เจ้าของรถยืนยันไม่ได้บอกให้ไปเอารถในบ้านเลย ผมได้เสพยาด้วยนะครับ ดูท่าพูดวกไปวนมา สุดท้าย ก็ยอมรับขโมยรถจริง ส่วนที่บอกชาวบ้านขายข้าวได้แล้วแบ่งให้คนละ 200 บาทเพราะผมกลัวติดคุก แต่เขาไม่เอา ถ้าเอาก็จะให้มากกว่านี้หน่อย จากนั้นก็เดินไปขอโทษ น.ส.ชไมพร เจ้าของรถ ผมขอโทษผมจะไม่ทำอีกแล้ว ส่วนเจ้าของรถก็บอกว่า ก็สงสารเบ๊นซ์อยุ่นะ แต่ก็ต้องดำเนินคดีเพราะไม่อยากให้ไปขโมยอีก เคยทำมาหลายครั้งแล้ว พร้อทเตือนอย่าไปหยิบของใครอีกนะ ต้องขออนุญาตเจ้าของบ้านเขาด้วย ทำแบบนี้ไม่ถูก ก็ต้องดำเนินคดี

นายพิษณุ สุมาลี อายุ 33 ปี คนที่ขับรถปิคอัพตามหาคนร้ายขโมยรถจยย.จนเจอ บอกว่า นายเบ๊นซ์เข้าไปขโมยรถเพื่อนถึงในบ้าน ตอน 7 โมงเช้าวันนี้ ผมและเจ้าของรถและชาวบ้านก็ขับรถตามหา หาไปทั่วอ.บ้านดุงก็ไม่เจอ จนสุดท้ายเจ้าของรถไปเจอขณะที่เอาข้าวไปขายที่บ้านผึ้งต.นาไหม จึงพาไปดู ก็เห็นนายเบ๊นซ์ขโมยข้าวเปลือกของใครไม่รู้ 3 กระสอบไปขายด้วย ตอนแรกเขาไม่ยอมรับว่าขโมยมาทั้งรถและข้าวเปลือกมา อ้างโน่นอ้างนี่ สุดท้ายก็ยอมรับ เขาติดยาหนักมาก แต่ละวันไม่ทำอะไรขโมยทรัพย์สินของชาวบ้านไปทั่ว ก่อนหน้านี้วันที่ 24 ธ.ค.66 ที่ผ่านมาก็ขโมยรถจยย.ของนายบุญทัน บุญศรี ผู้ใหญ่บ้านดอนขี้เหล็ก ตอนนั้นผู้ใหญ่บ้านไม่เอาเรื่อง ย่ามใจมาก่อเหตุอีก ตอนที่พานายเบ๊นซ์ขึ้นรถพาส่งตร. ยังบอกพวกผมว่า อย่าพาไปส่งตร.ขายข้าวได้จะให้คนละ 200 บาท

น.ส.อิน อายุ 29 ปี พี่สะใภ้นายเบ๊นซ์ บอกว่า ผู้ก่อเหตุเป็นน้องสามี ตนและสามีก็ออกตามหาช่วยกันด้วย หลังรู้ข่าวไปขโมยรถของชาวบ้านที่บ้านดอนขี้เหล็ก พอจับตัวได้สามีก็รับไม่ได้ที่น้องมาทำแบบนี้ก็บอกให้ตร.ดำเนินคดีเลย คงไม่ได้ช่วยอะไร ทำพฤติกรรมแบบนี้เอง ถามว่าสงสารน้องสามีไหมก็สงสาร แต่ก็ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ส่วน น.ส.ชไมพร อายุ 37 ปีเจ้าของรถ บอกว่า เช้านี้ตนเองจอดรถเอาไว้ภายในบ้าน ออกไปทุ่งนาเพื่อรื้อกระท่อม  มีธุระเข้ามาในบ้าน เห็นนายเบ๊นซ์ขับรถตัวเองผ่านไปพอดี ก็เอะใจเหมือนรถตัวเองจัง จึงมาดูที่บ้านก็ไม่เห็นรถที่จอดไว้ภายในบ้านแล้ว เปิดกล้องวงจรปิดดูก็เห็นนายเบ๊นซ์มาขโมยรถ ก็รีบไปบอกพี่ชายนายเบ๊นซ์ที่กำลังช่วยกันรื้อกระท่อม และออกตามหาจนเจอ จริงๆ แล้วก็เป็นคนในหมู่บ้านและญาติพี่น้องกัน ส่วนที่เขาอ้างว่าให้ยืมรถไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ไม่ได้บอกให้เข้าไปเอารถในบ้านเลย คิดว่าหากได้รถคงเอาไปขายหาเงินไปซื้อยาบ้า คงเอาเรื่องดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะไม่อยากให้ไปก่อเหตุอีก เจ้าของรถบอกตอนท้าย