กทม.เผยตัวเลขสถิติ 5 วันอันตราย ปี 67 ภาพรวมอุบัติเหตุลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
4 ม.ค. 2567, 16:18
วันนี้ ( 4 ม.ค.67 ) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมหัวหน้าหน่วยงานครั้งที่ 1/2567 ณ ชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครดินแดง ว่า เรื่องของความปลอดภัยและอุบัติเหตุในกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ในส่วนของ 7 วันอันตราย ซึ่งขณะนี้ได้รับข้อมูลใน 5 วันแรก พบว่า การเกิดอุบัติเหตุในกรุงเทพฯ ลดลง คือ 23 ครั้งจากเดิม 25 ครั้ง(ปี66) แต่ผู้เสียชีวิตมากขึ้น คือ 15 ราย เดิม 13 ราย(ปี66) และจำนวนผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นคือ 22 คน เดิม 21 คน(ปี66) โดยพาหนะที่เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตมากที่สุดคือรถจักรยานยนต์ และอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นในเวลา 01.00 -03.00 น. มากที่สุด โดยในส่วนของผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกทมจึง.ต้องประสานข้อมูลจากทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เพื่อวิเคราะห์ถึงสาเหตุและความรุนแรง รวมถึงนำมาวิเคราะห์การบริหารจัดการเส้นทางการจราจรและจัดทำมาตรการให้รัดกุมมากขึ้นในปีถัดไป
ในส่วนของความปลอดภัยในพื้นที่การจัดงานเคาท์ดาวน์ 2024 พบว่า ในปีนี้มีการจัดการพื้นที่แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ 1. พื้นที่การจัดงานขนาดใหญ่ อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน ไอคอนสยาม สยามสแควร์ สามย่านมิตรทาวน์ เอเชียทีค และชุมชน ซึ่งในปีนี้ต้องขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยที่ร่วมควบคุมและบริหารการจัดงานพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ อย่างปลอดภัยไม่เกิดอันตราย แต่ก็ยังพบบางกรณี เช่น เรื่องความหนาแน่นของผู้คนในสถานที่จัดงานที่เซ็นทรัลเวิลด์ โดยเจ้าหน้าที่มีการดำเนินการจัด Service Lane เว้นระยะ 2 เมตร เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งจะสามารถลำเลียงคนออกจากสถานที่ได้ง่าย ทำให้สามารถช่วยคนที่เกิดเหตุเป็นลมได้ประมาณ 30 ราย ซึ่งต้องขอชื่นชมทางเซ็นทรัลเวิลด์ที่สามารถบริหารจัดการแก้ไขเหตุฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว และขอขอบคุณประชาชนที่มาร่วมงานที่เว้นระยะบริเวณ Service Lane ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการได้สะดวก โดยในปีหน้าจะมีการจัดแผนบริหาร จำนวนผู้ร่วมงานต่อพื้นที่ให้รัดกุมยิ่งขึ้น หรือการเพิ่มจอมอนิเตอร์ถ่ายทอดการแสดงของศิลปินบนเวทีให้ทั่วถึง เพื่อให้ทุกคนได้ดื่มด่ำบรรยากาศเคาท์ดาวน์ 2024 ได้อย่างปลอดภัยและไม่หนาแน่นเกินไป ในส่วนไอคอนสยาม มีการบริหารจัดการพื้นที่ได้ดี แต่คนก็แออัดอยู่ที่สะพานลอยเข้างาน จึงต้องถอดบทเรียนเหตุการณ์ต่างๆ ในปีนี้เพื่อนำมาแก้ไขมาตรการในปีถัดไป
2. พื้นที่การจัดงานสวดมนต์ข้ามปี ซึ่งก็มีจำนวนผู้ร่วมงานหนาแน่นเช่นกัน จึงมีปัญหาเรื่องการโดยสารสาธารณะของผู้ร่วมงาน อาทิ รถไฟใต้ดินที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น ซึ่งทางรถไฟฟ้า MRT ก็มีการบริหารจัดการระบบตั๋วใหม่ด้วยการตรวจสอบตั๋วโดยสารที่ปลายทางเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ดีระบายผู้โดยสารจากต้นทางใด้คล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้ในปีนี้ผลกระทบจากพลุและดอกไม้เพลิงที่จุดและหล่นตามอาคารบ้านเรือน พบว่ามีความรอบคอบและไม่กระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงสถิติการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ก็ลดลงอีกด้วย