ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พลโท ชิษณุพงศ์ รอดศิริ แม่ทัพภาคที่ 1/ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 พร้อมคณะฯ เดินทางมาด้วยเฮลิคอปเตอร์ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่134 อำเภอสังขละบุรี  ติดตามการปฏิบัติงานของ หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ในการป้องกันการลักลอบเข้ายาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด

 

โดยมีนายรณภพ เวียงสิมมา รอง ผวจ. กาญจนบุรี  พล.ต.วุฑยา จันทมาศ ผบ. กองพลทหารราบที่9 /กองกำลังสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรี พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ร.29 /ผบ. หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.ที่13 จ.กาญจนบุรี นายปัญญา นามสง่า ผอ. ฝ่ายบริการศุลกากรสังขละบุรี นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นอภ.สังขละบุรี หน่วยราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับและร่วมประชุมวางแผนการปราบปรามยาเสพติดที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยผิดกฎหมาย

 

ต่อมาเวลา13.30 น.คณะฯ เดินทางโดยรถยนต์ จาก ร้อย ตชด.134 ไปยังบ้านไม่มีเลขที่  ซอยเกษตร 8 หมู่ที่ 9  บ้านพระเจดีย์สามองค์ ตำบลหนองลู  ซึ่งเปิดเป็นร้านรับซื้อของเก่า และเป็นสถานที่ ที่นายปิติพันธ์ น้อมสูงเนิน และ น.ส.พรศิริ คงนาน สองสามี-ภรรยา ผู้ต้องหาคดีขนยาเสพติด จำนวน 50,000,000 เม็ด ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ จับกุมได้ที่จุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ เมื่อวันที่12 ธ.ค.2566  ซึ่งในเวลาต่อมาผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าใช้บ้านหลังดังกล่าวเป็นที่เก็บพักยา โดยนำยาเข้ามาจากประเทศเมียนมาผ่านประตูหลังบ้านที่สามารถเปิดออกไปสู้ประเทศเมียนมาได้ ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้าฯ กองกำลังสุรสีห์ ได้เข้ามาทำการปิดประตู และตั้งป้อมยามเฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายตลอด 24 ชั่วโมง

 

เวลา14.30น.คณะฯ เดินทางโดยรถยนต์ จาก ซอยเกษตร 8 ถึง ช่องทางหกพันไร่รับฟังบรรยายสรุปประกอบแผนที่สถานการณ์/ตรวจภูมิประเทศมอบของบำรุงขวัญต่อจากนั้น คณะฯ เดินทางโดยรถยนต์ จาก ช่องทางหกพันไร่ ถึงจุดตรวจร่วมน้ำเกริ๊ก หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี เพื่อตรวจสอบกรดไนตริค 68  บรรจุขนาด 35 กก. จำนวน 80 ถัง  น้ำหนักรวม 2,800 กก กรดซัลฟิวริก 98 บรรจุขนาด 35 กก จำนวน 80 ถัง น้ำหนักรวม 2,800 กก

 

ซึ่งเป็นการตรวจยึดได้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคา 2566 ขณะมีความพยายามใช้รถบรรทุกขนผ่านด่านเพื่อนำส่งไปยังปลายทางที่เมืองพยาตองซู ประเทศเมียนมา ตรงข้ามบ้านพระเจดีย์สามองค์ ซึ่งจากการข่าวของ ปปส และฝ่ายความมั่นคง พบว่ามีความเชื่อโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสารทั้ง 2 ตัวที่ตรวจยึดได้เป็นวัตถุอันตราย ที่สามารถนำไปเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดประเภทแอมเฟตามีน(ยาบ้า) หากสามารถนำเล็ดลอดออกไปได้สามารถผลิตเป็นยาบ้าได้ทั้งหมดประมาณ 8,558.55 กก.  ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนขยายผล ตามจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ก่อนเดินทางกลับ แม่ทัพภาคที่ 1 / ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1ได้มอบของบำรุงขวัญ เน้นย้ำการปฏิบัติงาน ชื่นชมในผลการจับกุม ยาบ้า 170,000 เม็ด และให้กำลังใจ ในความทุ่มเทและเสียสละของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันป้องกันยาเสพติดเข้ามาประเทศโดยผิดกฎหมาย ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล ตามคำสั่งการของนายกรัฐมนตรี