ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิเชียร เมืองมีศรี เกษตรกรชาว ต.วังคีรี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และมีตำแหน่งเป็นประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลวังคีรี  ได้นำผู้สื่อข่าวดูถังน้ำหมักชีวภาพที่ได้จากการหมักเศษผัก และผลไม้ เช่น เปลือกหรือผลสับปะรดที่ทิ้งแล้ว รวมทั้งมังคุด และผลไม้ต่างๆ  ตลอดจนเศษปลา เศษกุ้ง ที่ได้จากครัวเรือน รวมทั้งตามตลาดนัดต่างๆ มาแยกถังหมัก  โดยน้ำหมักที่ได้จากเศษของคาว เช่น เศษปลา เศษกุ้ง นำไปใช้สำหรับใส่ต้นไม้เป็นปุ๋ยบำรุงดิน  ส่วนน้ำหมักที่ได้จากเศษผลไม้ต่างๆ จะนำไปใช้สำหรับฉีดพ่นไล่แมลงศัตรูพืช  แต่หากผสมในสัดส่วนที่ใช้น้ำหมักชีวภาพเข้มข้นมากขึ้น ก็ใช้สำหรับปราบวัชพืชในแปลงพืชผักสวนครัวที่ปลูกเอาไว้อย่างได้ผล  เพียงแค่ประมาณ 2 สัปดาห์ หญ้าก็จะสลบสามารถไถกลบเป็นปุ๋ยในดินได้ด้วย

โดยนายวิเชียร กล่าวว่า หลังจากที่ตนเองได้ไปศึกษาดูงานที่ จ.ระยอง เห็นตัวอย่างเกษตรกรใช้ชีวิตตามศาสตร์พระราชา รวมทั้งการทำน้ำหมักชีวภาพ จากเศษผลไม้ เศษปลา หรือเศษกุ้งต่างๆ แล้วนำมาใช้บำรุงดิน รวมทั้งไล่แมลงศัตรูพืช และฆ่าหญ้าได้ดี  จึงกลับมาถ่ายทอดสู่สมาชิกในกลุ่มซึ่งมีรวมกว่า 10 คน ที่ปลูกพืชผักสวนครัวและเลี้ยงหมูหลุม  จากนั้นแต่ละรายก็ผลิตน้ำหมักชีวภาพไว้ใช้เองในครัวเรือน ทำให้ทุกคนไม่ต้องใช้สารเคมีในการกำจัดแมลง และฆ่าหญ้า รวมทั้งไม่ต้องใช้ปุ๋ยอินทรีย์ใส่ต้นไม้ ทำให้ดินดีอุดมสมบูรณ์ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย  ทั้งนี้ ในส่วนของน้ำหมักชีวภาพ หากผสมน้ำใส่ถังฉีดพ่นในปริมาณน้อย สามารถฉีดพ่นไล่แมลงศัตรูพืชได้ แต่หากผสมปริมาณที่เข้มข้น ก็สามารถฉีดฆ่าหญ้าให้เฉาตายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์

นอกจากนั้น ในส่วนตัวยังใช้วิธีเอาผ้าใบผืนใหญ่คลุมทับหญ้าทิ้งไว้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ทำให้หญ้าตายจนสามารถไถกลบได้เช่นกัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีฆ่าแมลงหรือฆ่าหญ้า  เป็นประโยชน์กับดิน และไม่มีสารตกค้างในดิน พืชผัก ซึ่งทุกคนในชุมชนสามารถรับประทานผักได้โดยไม่ต้องกังวล  จึงอยากจะฝากไปยังทุกคนที่ยังใช้สารเคมี ขอให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้กลับมาใช้ภูมิปัญญา หรือใช้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่ ปู่ ย่า ตาย ยาย เคยให้ความรู้ตกทอดกันมา เพื่อร่างกายจะได้มีภูมิต้านทานเพิ่มขึ้น