เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



กทม. จับมือเครือข่ายกว่า 50,000 คน พร้อม WFH หากค่าฝุ่นสีแดง 3 วันติด


15 ม.ค. 2567, 15:31



กทม. จับมือเครือข่ายกว่า 50,000 คน พร้อม WFH หากค่าฝุ่นสีแดง 3 วันติด




วันนี้ ( 15 ม.ค.67 ) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2567 ณ ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ถึงสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า  ในช่วงนี้เป็นช่วงที่สภาวะอากาศถ่ายเทไม่ดี จึงทำให้ค่าฝุ่นสูงขึ้น เหตุผลหนึ่งเชื่อว่ามาจากการเผาชีวมวลในประเทศ รวมทั้งการเผาในประเทศเพื่อนบ้านด้วย แม้ตัวเลขการเผาชีวมวลภาพรวมของประเทศจะลดลง แต่จุดความร้อนในภาคกลางเมื่อเทียบปี 2566 กับปี 2567 ในช่วงวันที่ 1-9 มกราคม พบว่า ในปี 66 มีจุดเผา 525 จุด ส่วนในปี 67 มีจุดเผา 1,089 จุด เพิ่มขึ้นมา 107% ส่วนในเรื่องของรถยนต์ เรามีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนบำรุงรักษารถยนต์ โดยจัดทำแคมเปญ “รถคันนี้#ลดฝุ่น” ร่วมกับ 9 บริษัทรถยนต์ และ 6 บริษัทผู้ค้าน้ำมัน ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันยูโร 5 ซึ่งคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่งให้น้ำมันในถังหมดก่อน

นอกจากนี้ ได้มีการมอนิเตอร์สถานการณ์ใกล้ชิด มีการแจ้งเตือนประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร หากมีการพยากรณ์ว่าจะมีค่าฝุ่นเป็นสีแดงต่อเนื่อง 3 วัน จะดำเนินมาตรการ Work from Home (WFH) ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายที่พร้อมร่วมมือประมาณเกือบ 50,000 คน ด้านโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เรามีการทำห้องปลอดฝุ่นในทุกโรงเรียน และกำลังดำเนินการจัดทำห้องปลอดฝุ่นของเด็กอนุบาลเพิ่มขึ้น ด้านการกำจัดต้นตอ ได้มีการตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่นอย่างต่อเนื่อง มีมาตรการห้ามเผาในที่โล่ง

ส่วนในเรื่องของสุขภาพ กรุงเทพมหานครมีคลินิกมลพิษทางอากาศ 8 แห่ง ได้แก่ รพ.กลาง รพ.ตากสิน รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ รพ.เวชการุณย์รัศมิ์ รพ.ลาดกระบังกรุงเทพมหานคร รพ.ราชพิพัฒน์ และ รพ.สิรินธร ซึ่งหากประชาชนได้รับปัญหาสุขภาพจากฝุ่นสามารถเข้ารับคำปรึกษาได้ รวมถึงสามารถพบแพทย์ผ่านทาง Telemedicine แอปพลิเคชัน “หมอ กทม.” เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการได้อย่างรวดเร็ว หรือหากต้องการปรึกษาเรื่องสุขภาพ สามารถโทร. HOTLINE 1646 สายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ ซึ่งให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ได้อีกด้วย









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.