รวบตัว ! "หนุ่มวัย 39 ปี" แฝงตัวเป็น "คนเร่ร่อน" ตระเวรก่อคดีข่มขืน-ลักทรัพย์-หลอกลวงผู้สูงอายุ
18 ม.ค. 2567, 09:55
สืบนครบาลรวบตัว นายมอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ฐาน“ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น” พฤติการณ์ คือ หลอกลวงผู้เสียหายโดยใช้เฟสอ้างว่าเป็นตำรวจ สามารถช่วยให้คำปรึกษาเรื่องคดีความได้ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้นัดผู้เสียหายไปพบที่ห้องพักแห่งหนึ่งย่านตลิ่งชัน แล้วทำการข่มขืน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจนทราบว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุนั้น คือนายมอ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมมาโดยตลอด และจากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหายังก่อเหตุอื่นอีกเพียบ
พฤติการณ์ คือ หลอกลวงเอาโทรศัพท์จากผู้เสียหาย อายุประมาณ 77 ปี ซึ่งอ้างว่ารู้จักกันและเป็นเจ้าของห้องเช่าที่ตนเช่าอยู่ ณ ตอนนั้น โดยหลอกลวงว่าจะอัพเดตระบบให้ แต่ได้ฉวยจังหวะผู้เสียหายเผลอ เข้าไปใช้งานแอพเบิกถอนเงินสด แล้วโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง ยอดประมาณ 55,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้สืบทราบว่า นายมนัส หรือ ปลา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว ได้หลบหนีการจับกุมด้วยการแฝงตัวเป็นคนเร่ร่อน อาศัยนอนและหาข้าวกินตามสถานที่ที่มีการแจกอาหารให้กับคนเร่ร่อน ในบริเวณพื้นที่เขตพระนคร นอกจากนี้ยังพบว่ามีการก่อเหตุลักทรัพย์และหลอกลวงประชาชนในพื้นที่อยู่อีกหลายครั้ง จึงได้เดินทางตรวจสอบในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมผู้ต้องหา นั่งพักอยู่บริเวณ ริมถนนข้างวัดชนะสงคราม ซ.รามบุตรี ถ.จักรพงษ์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพ จึงได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายจับให้นายมอ ดูและอ่านจนเข้าใจดีแล้ว รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับข้างต้นนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหา และแจ้งสิทธิ์ ให้นายมอ ทราบ ก่อนทำการจับกุม
จากการสอบปากคำผู้ต้องหา ให้การว่า ตนเองนั้นตกงาน ปัจจุบันไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยนอนอยู่ตามร้านฟาสต์ฟู๊ดที่เป็น 24 ชั่วโมง โดยหมุนเวียนอยู่บริเวณสนามหลวง สะพานพระราม 8 จรัญสนิทวงศ์ ฯลฯ และอาศัยกินข้าวตามสถานที่ที่มีการแจกข้าวสำหรับคนเร่ร่อน เป็นระยะเวลามานานหลายเดือนแล้ว โดยให้การยอมรับว่าได้มีการกระทำความผิดตามหมายจับจริง เพราะตนนั้นตกงานและต้องการเงินจริงๆ นายมอยังให้การเพิ่มเติมว่า ตนได้เคยเข้าไปตีสนิทกับนักท่องเที่ยวเพื่ออาศัยกินดื่มฟรี เมื่อสบโอกาสพี่นักท่องเที่ยวเมาจะใช้จังหวะเผลอลักทรัพย์ติดตัวมา จำนวนหลายครั้ง แต่ผู้เสียหายอาจจะไม่ได้แจ้งความ และยังให้การว่าเคยมีพฤติการณ์เปิดโรงแรมเพื่อนอนพักหลายครั้งแล้วหลบหนีออกมาโดยไม่ได้จ่ายเงิน และนอกจากนั้นยังเคยมีพฤติการณ์เข้าไปตีสนิทกับผู้คนต่างๆ โดยอ้างว่าตนเป็นครูพละ เพิ่งมาบรรจุใหม่ เพื่อเรียกความน่าเชื่อถือ ทำทียืมเงินแล้วก็หลบหนีไป ส่วนคดีข่มขืนนั้น ขอให้การภาคเสธ
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติเพิ่มเติมจากฐานข้อมูลคดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า นายมอ (นามสมมุติ) เคยมีประวัติคดีลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้งในหลายท้องที่ จำนวนหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่ถูกจับกุม เมื่อปี 2565 ในพื้นที่ สน.บางขุนนนท์
โดยสามารถจับกุมได้ที่ ริมถนนข้างวัดชนะสงคราม ซ.รามบุตรี ถ.จักรพงษ์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพ จากนั้น นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชันเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป