เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2567  ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์  นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ  กล่าวว่า  ตนมีความยินดีมากที่ทราบข่าวว่า มีคณะผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษพรรคเพื่อไทย จำนวน 7 คนช่วยกันผลักดันขอให้ท่านนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เจรจากับผู้นำของกัมพูชาเพื่อเปิดประตูเหล็กที่กั้นระหว่างผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารกับปราสาทเขาพระวิหารของกัมพูชา เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกครั้งหนึ่ง  ที่จริงเขาพระวิหารนี้เปิดแล้วก็ปิดกันมาหลายครั้งแล้ว สมัยก่อนก็ปิดๆ เปิดๆ เพราะมีปัญหาภายใน ประเทศกัมพูชาเอง   ต่อมาก็เริ่มมีปัญหาปล่อยน้ำเสียลงมาฝั่งไทย   และปัญหาอื่นๆตามมา ทำให้ต้องปิดมานานรวมทั้งการอ้างสิทธิ์ในพื้นที่  4.6  กม.ก็ยังไม่ชัดแจ้ง   

ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์  นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ  กล่าวต่อไปว่า หากทางคณะผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองจะเจรจาขอให้เปิดประตูเหล็กสู่ปราสาทพระวิหาร ก็ขออย่าได้ให้ทางฝ่ายกัมพูชานำการเปิดเขาพระวิหารมาเป็นข้อต่อรองเพื่อแลกเปลี่ยนกับอะไร  ไม่อยากให้มีเงื่อนไขที่ทำให้เราต้องตัดสินใจลำบาก   หากจะเปิดเพื่อการท่องเที่ยวร่วมกันก็จะดีมาก  มีผลดีต่อ 2 ประเทศที่จะได้มีนักท่องเที่ยวขึ้นชมได้ทั้ง 2 ฝั่งอีกครั้งหนึ่ง  แต่หากเจรจาเปิดไม่ได้ก็ไม่เสียใจ เพราะปัจจุบันเราก็ได้บูมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารบริเวณผามออีแดงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ  เป็น unseen ไทยแลนด์  หากนักท่องเที่ยวมาชมตะวันขึ้น 3 แผ่นดินที่ผามออีแดง ก็สามารถมองเห็นปราสาทพระวิหารได้ และมีวิวทิวทัศน์สวยงามมาก  มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาผามออีแดง มาชมทะเลหมอกยามเช้า มานอนดูดาว  จนฮิตติดตลาดแล้วในขณะนี้